Skip to main content
sharethis

โฆษกรัฐบาล ออกโรงแฉการประท้วงของเกษตรกรที่จังหวัดสงขลา มีอดีตนักการเมืองหนุนหลัง เชื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง วอนเกษตรกรอย่าตกเป็นเครืองมือ ด้านรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โต้กลับ ผู้มีอำนาจเคยลงพื้นที่มาดูปัญหาบ้างหรือไม่

แฟ้มภาพเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล

3 ก.พ. 2560 สื่อมวลชนหลายสำนัก รายงานตรงกันว่า พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีอดีตนักการเมืองใน จ.สงขลา พยายามเป็นแกนนำชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ให้รวมตัวกันกดดันรัฐบาล เพื่อให้ช่วยเหลือด้านเมล็ดพันธุ์ภายหลังน้ำท่วมคลี่คลายแล้วโดยมีนัยทางการเมืองแอบแฝง อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกเยี่ยมเยือนและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่เสมอพบว่า พี่น้องชาวนาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว

“การเป็นแกนนำสร้างกระแสเรียกร้องรัฐบาล เพื่อแสดงบทบาทให้ประชาชนเห็นว่า ตนมีความสำคัญและกลุ่มการเมืองยังรักและเป็นห่วงประชาชนอยู่นั้น เป็นพฤติกรรมอันเคยชินเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ทราบดีและยอมรับอยู่แล้วว่า รัฐบาลให้ความช่วยเหลือในระดับหนึ่งแล้ว และจะดำเนินการต่อไปอีกจนกว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ เช่น จังหวัดใช้เงินบริจาคไปจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ให้ชาวนา 3 ลบ. ตามด้วยเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 3,000 บ.และเงินทดรองราชการของจังหวัดอีก 1,113 บ.ต่อไร่ นอกจากนี้ กรมการข้าวยังจะส่งเมล็ดพันธุ์ไปช่วยเหลือเพิ่มอีก 40 ตัน ตลอดจนการเข้าไปฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน พื้นที่ทำกิน อุปกรณ์ประกอบอาชีพ ฯลฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงอยากให้กลุ่มการเมืองได้ทบทวนบทบาทของตนเองในเรื่องนี้”

พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรวมถึงทุกหน่วยงานที่ทำงานกับพี่น้องเกษตรกร เข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยโดยได้ออกมาตรการต่างๆ และลงไปกำกับติดตามการให้ความช่วยเหลือด้วยตนเองอย่างเต็มที่

“หากผู้ใดยังมีข้อขัดข้องหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ขอให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง มีเหตุและผล โดยรัฐบาลยินดีรับฟังทุกเมื่อ และอยากให้พี่น้องเกษตรกรมีเกียรติและศักดิ์ศรี ดำรงชีพอยู่ได้ยั่งยืนตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาตนเองให้เป็น Smart Farmer โดยไม่ตกเป็นเหยื่อให้ใครนำเรื่องความเดือดร้อนไปใช้เป็นเครื่องมือหรือแสวงหาประโยชน์ทางการเมือง”

ถาวร สอนมวย สรรเสริญ ถามกลับแล้วรัฐบาลเคยลงพื้นพูดคุยกับชาวบ้านหรือไม่ หากเป็นสภาปกติ ถูกตั้งกระทู้ถามไปนานแล้ว

ขณะที่ ถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พลโทสรรเสริญ ระบุถึงเหตุการชุมนุมรวมตัวของชาวนากว่า 3,000 คน ที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่ามีนักการเมืองในพื้นที่หนุนหลังนั้น ขอทำความเข้าใจกับ พลโท.สรรเสริญ ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนาใน จ.สงขลา โดยเฉพาะ อ.ระโนด ซึ่งส่วนใหญ่ต้องสูบน้ำเข้านาจากทะเลสาบสงขลา แต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเกิดภัยแล้งน้ำทะเลหนุนสูง จึงทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นน้ำเค็ม เมื่อสูบเข้านาก็ทำให้นาล่ม ชาวนาต้องไปกู้หนี้ยืมสินซื้อพันธุ์ข้าวมาเพาะปลูก ในช่วงเดือน ส.ค.59 โดยหวังจะเก็บเกี่ยวตอนสิ้นปี แต่ก็ต้องพบกับอุทกภัยซ้ำเสียหายจนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีเงินทุนซื้อพันธุ์ข้าว ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ผู้ว่าฯ ช่วยเหลือก็ไม่คืบหน้า ขาวนาจึงมาร้องเรียนอดีตนักการเมืองอย่างตน เพื่อประสานให้งบประมาณ 50 ล้านบาท ในการจัดซื้อพันธุ์ข้าวมาแจกจ่ายชาวนา เพื่อให้เพาะปลูกได้ต่อในฤดูกาลหน้า

ถาวร กล่าวต่อว่า ดังนั้นการที่ พล.ท.สรรเสริญ ระบุว่า มีนักการเมืองในพื้นที่ยุยงปลุกปั่นนั้น ขอถามว่าตัวผู้ว่าฯ ,รมว.เกษตร หรือแม้แต่ตัว พลโทสรรเสริญ ได้เปิดให้ตัวแทนชาวนาพบและรับฟังความเดือดร้อนของเขาหรือไม่ แม้กระทั่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่รัฐบาลตั้งขึ้นถามว่า เคยลงพื้นที่มาพบปะชาวบ้านรับฟังความเดือดร้อนของเขาหรือไม่ หากเป็นรัฐบาลปกติ ป่านนี้กระทู้สด กระทู้แห้ง ตั้งถามว่อนเต็มสภาฯเพื่อจี้ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเสร็จสิ้นไปแล้ว การที่ตัวแทนกลุ่มชาวนามาร้องเรียนอดีตนักการเมืองอย่างตน ที่เปิดให้คนเดือดร้อนพบ เพราะเขาไปร้องส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาหมดแล้ว แต่ไม่คืบหน้า ดังนั้นขออย่ามองพวกตนเป็นศัตรู ทั้งที่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลด้วยซ้ำ ส่วนจะนั่งครองเมืองไปอีกนานเท่าไหร่ ก็เชิญตามสบาย ขอถามว่าได้ทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขพี่น้องประชาชนได้ดีมากน้อยแค่ไหนเพียงใด

อดีต ส.ส. สงขลาระบุ เรื่องปากท้องของชาวบ้าน อย่ามองเป็นว่ามีนัยทางเมือง เลือกตั้งก็ไม่รู้จะมีเมื่อไหร่ เชื่อสรรเสริญได้ข้อมูลมาผิดผลาด

ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา กล่าวถึงกรณีการกล่าวหาของ พลโท สรรเสริญ ว่า นี่ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เป็นเรื่องปากท้องของบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ ทางราชการเข้าไปก็รู้ปัญหานี้ ว่าชาวนาไม่มีรายได้ ก็ต้องกู้หนี้ยืมสินอีก ซึ่งเราไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็ต้องมาช่วยกัน เพราะชาวบ้านที่ทำนาไม่เหมือนปลูกยาง ดังนั้นตัวแทนเกษตรกรจึงไปยืนหนังสือร้องทุกข์ กับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ให้รัฐบาลช่วยหาเมล็ดพันธุ์ข้าวมาให้ ประมาณ 5 พันกว่ารายที่ได้รับผลลกระทบ โดยขอไป 2.5 พันตัน คอบคุมประมาณ 1 แสนไร่ ก็สามารถแก้ปัญหาได้

“ถ้ารัฐลงมาดูในพื้นที่ก็จะได้เห็นข้อเท็จจริงมากขึ้น ยืนยันว่า ไม่มีนัยทางการเมือง เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง ชาวบ้านต้องการคำตอบในการช่วยเหลือจึงนัดประชุมกันที่วัดวารีปาโมกข์ อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งมีผู้ว่าฯ ผอ.กรมการข้าวมารับฟังปัญหา ผู้ว่าฯก็มาพูดกับชาวนาในการช่วยเหลือ โดยระบุว่าไปขอมาจากเอกชนห้างเท่านั้นเท่านี้ซึ่งก็เป็นเรื่ององผู้ว่าฯ เกษตรกรบอกว่าต้องมีคำตอบให้ว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวจะได้หรือไม่ได้อย่างไร จะได้หาทางถูกในการที่จะช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งชาวบ้านไม่ได้กดดันรัฐบาล เพียงแต่อยากฟังคำตอบ การที่มารับหนังก็ควรมีคำตอบ จึงได้ขอว่าวันที่ 6 ก.พ. นี้จะต้องมีคำตอบให้ชัดเจน” ชัยวุฒิ กล่าว

ด้านเจือ ราชสีห์ อดีตส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีการกดดันอะไรรัฐบาลทั้งนั้น รัฐบาลจะทำหรือไม่ทำก็เป็นสิทธิ์ ทางเดียวที่เราทำคืออยากให้รัฐบาลมาช่วยชาวบ้านจริงๆ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของความทุกข์ยากแท้ๆ เพียงแต่ถ้ามีสภาฯ เราก็จะนำปัญหาไปพุดกันในสภาฯ ดังนั้นถ้ารัฐบาลตั้งใจจริงๆ ก็ให้มาฟังปัญหาและช่วยชาวบ้านเสีย เช่นจัดหางบประมาณมาให้ ก็ไม่กี่ร้อยล้านบาท ซึ่งไม่มากอะไรเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของชาวบ้าน ขอให้ราชการฟังปัญหาชาวบ้านให้มาก อย่างไรก็ตาม เห็นว่า พล.ท.สรรเสริญ อาจจะได้ข้อมูลมาไม่ตรง เพราะข้อมูลตรงคือชาวบ้านมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้ได้พันธุ์ข้าวมา ซึ่งรัฐบาลก็ต้องอธิบายว่าจะช่วยอย่างไร

ขณะที่วิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคปชป. กล่าวว่า พล.ท.สรรเสริญคงได้ข้อมูลมาผิดพลาด ความจริงเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนอันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นการท่วมขังที่กินระยะเวลาบางพื้นที่นานนับเดือนพี่น้องได้ประสานงานไปยังจังหวัดสงขลาแต่ไม่ได้รับการสนองตอบ จึงได้ขอความร่วมมือและแจ้ง ชัยวุฒิ เพื่อให้รับทราบปัญหา ชัยวุฒิก็พยายามประสานให้ โดยทางจังหวัดสงขลารับเรื่องร้องเรียนของราษฎรแต่ไม่ได้รับการตอบสนองชัยวุฒิจึงต้องไปรับเรื่องราวร้องทุกข์เอง และรีบนำเรียนทีมงานของนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนกรณีนี้จึงไม่ใช่เป็นม็อบที่นำโดยนักการเมืองแต่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ พวกเราอยากเห็นการปรองดองที่ถูกวิธีและปรองดองโดยพูดถึงต้นต่อรากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงเพียงแต่เมื่อพี่น้องประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนเขาพึ่งพาทางจังหวัดไม่ได้ จึงไม่มีทางอื่น ต้องมารบกวนนักการเมืองให้ช่วยรับเรื่อง กรณีนี้จึงเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอันเนื่องมาจากอุทกภัยที่แท้จริงอย่าได้ระแวงนักการเมือง ทางที่ดีรัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจะดีกว่า

เรียงเรียบจาก: ไทยรัฐออนไลน์ , ผู้จัดการออนไลน์ , มติชนออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net