กรณี 'ตูน บอดี้สแลม' วิ่ง 400 กิโลฯ เพื่อนำรายได้มอบให้โรงพยาบาลบางสะพาน 'ประยุทธ์' ให้กำลังใจทุกคนที่ร่วมกิจกรรม ด้านปลัดสาธารณสุข ยันโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ไม่ได้ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์อย่างที่เป็นข่าว และไม่ได้แย่ถึงขนาดไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์ แค่ต้องใช้เพิ่มมากขึ้นจากปริมาณงานมากขึ้น ย้ำอยู่ระหว่างปฏิรูประบบ
ที่มาภาพจากเพจ Bodyslam
14 ธ.ค. 2559 จากกรณี อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดัง ที่ได้จัดกิจกรรม "ก้าวคนและก้าว" วิ่งจาก กรุงเทพ - บางสะพาน ระยะทาง 400 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ 1-10 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนำรายได้มอบให้โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปพัฒนาและจัดหาเครื่องมือแพทย์ มียอดเงินบริจาคทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านบาท ได้สร้างกระแสทั้งชื่นชมตัวตูนและทีมงานเอง รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์รัฐที่ไม่สามารถบริหารหรือจัดการบริการดังกล่าวได้อย่างเพียงพอ
ประยุทธ์ ให้กำลังใจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณี ตูน ด้วยว่า ก็อาจจะมีการติดขัดการจราจรอยู่บ้าง ก็ถือว่าช่วยกันแล้วกัน เพราะนอกจากจะเป็นการอุทิศแรงกาย แรงใจ ทำงานเพื่อสังคมแล้ว ยังเป็นการออกกำลัง ให้เป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนและประชาชน เป็นความคิดที่สร้างสรรค์ของผู้ที่มีชื่อเสียงอยู่ในสังคม ที่สำคัญ เป็นการทำการกุศลที่สิ้นเปลืองน้อยที่สุด ใช้แรงกาย แรงใจ แต่ได้รับผลตอบรับมากที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทุกคนด้วย และต่อๆ ไป
ปลัดสาธารณสุขยัน รพ.ไม่ได้แย่-ขาดเครื่องมือ แค่ต้องใช้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ วานนี้ (13 ธ.ค.59) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือ โสภณ เมฆธน กล่าวถึงกรณีนี้โดยเฉพาะ กระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่าโรงพยาบาลของรัฐขาดแคลนเครื่องมือแพทย์นั้น ยืนยันว่า การจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ตรงสเปกนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะโรงพยาบาลแต่ละแห่งเป็นผู้จัดทำสเปกขึ้นมาเสนอเอง โดยหน่วยงานในภูมิภาคจะมีคณะกรรมการกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ตามความต้องการผู้ใช้ ทั้งนี้ งบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์มีอยู่ 4 แนวทางคือ งบประมาณประจำปีเป็นงบลงทุนจากสำนักงบประมาณ, งบค่าเสื่อมจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการจัดซื้อทดแทน, เงินบำรุงของแต่ละโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นรายได้ของโรงพยาบาล หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการรักษาทั้งกลุ่มสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม หรือแม้แต่บัตรทอง ก็สามารถนำมาใช้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นได้ และสุดท้ายคือ เงินบริจาคจากประชาชนหรือผู้มีจิตศรัทธา