ซาอุดิอาระเบียสั่งประหารชายพิการ-หลังถูกกล่าวหาส่ง SMS ต่อต้านรัฐบาล

ชายพิการทางสายตาและการได้ยินชาวซาอุดิอาระเบีย วัย 23 ปี รับสารภาพหลังถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย และศาลตัดสินให้มีความผิดในข้อหาส่งข้อความ SMS ต่อต้านรัฐบาล และต้องโทษประหารชีวิต ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนในอังกฤษเรียกร้องให้ปล่อยตัวชายคนดังกล่าว

ที่มาของภาพประกอบ: Wikipedia

15 พ.ย.2559 เว็บไซต์ดิอินดิเพนเดนท์รายงานกรณีชายพิการทางการได้ยินชาวซาอุดิอาระเบีย มุนี อัล-อดัม วัย 23 ปี ที่ถูกซ้อมทรมานเพื่อให้รับสารภาพในข้อหาส่งข้อความต่อต้านรัฐบาลผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และเข้าร่วมเหตุการณ์ปะทะกับตำรวจ ในช่วงการต่อต้านในกลุ่มชีอะตะวันออกเมื่อปี 2554 จนต้องโทษประหารชีวิต

อัล-อดัม มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการได้ยินบางส่วน เมื่อเขาถูกจับกุมและอยู่ในการควบคุมตัวเขาถูกทำร้ายร่างกายเพื่อให้ยอมรับสารภาพ จนกระทั่งสูญเสียการได้ยินอย่างสมบูรณ์แบบ เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาส่งข้อความต่อต้านรัฐบาลผ่านทางโทรศัพท์มือถือและถูกศาลอาญาพิเศษ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอารเบีย ให้ประหารชีวิตด้วยการตัดคอ อย่างไรก็ดี ญาติของเขาต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าอัล-อดัม นั้นยากจนเกินกว่าที่จะสามารถหาโทรศัพท์มือถือมาเป็นของตัวเองได้ด้วยซ้ำ

เว็บไซต์เดอะไทมส์ รายงานว่า ครอบครัวของ อัล-อดัม ได้ยื่นคัดค้านแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของคณะลูกขุนและกล่าวว่า เขาถูกทำร้ายร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยตำรวจ เพื่อให้ยินยอมรับสารภาพในข้อกล่าวหาดังกล่าว

นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านรัฐบาลและคนที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มอัลไคดา กว่า 47 ราย ถูกกวาดล้างและดำเนินคดีโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน และในเดือนกรกฎาคม มีผู้ได้รับโทษประหารชีวิตด้วยวิธีการตัดคอมากถึง 108 ราย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับสถิติในปี 2558 นอกจากนี้ยังพบว่า ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่มีจำนวนเพชฌฆาต ผู้ลงมือประหารชีวิตมากที่สุดในโลก จากงานวิจัยขององค์กรสิทธิมนุษยชนที่ชื่อ Reprieve แสดงให้เห็นว่า กว่าร้อยละ 72 ของคำพิพากษาตัดสินโทษ คือโทษประหารชีวิต ขณะที่การทำร้ายร่างกาย ซ้อมทรมานและบังคับให้ยอมรับสารภาพยังคงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น

มายา ฟอ เจ้าหน้าที่จากองค์กรสิทธิมนุษยชนReprieve กล่าวกับดิอินดิเพนเดนท์ว่า กรณีของอัล-อดัม เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของซาอุดิอาระเบียพึงพอใจในการทำให้ผู้คนตกอยู่ใต้อำนาจของตนด้วยการทำร้ายร่างกาย และใช้กำลังเข้าข่ม ขณะที่ในสหราชอาณาจักรมีการเรียกร้องโดยกลุ่มคนหนุ่มสาวให้มีการปล่อยตัวอัล-อดัม และคนอื่นๆ ที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเพียงเพราะแสดงจุดยืนในการต่อต้านรัฐบาล

ซารา ฮาชาห์ โฆษกองค์กรแอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือกล่าวว่า ประเทศซาอุดิอาระเบีย ปากีสถาน และอิหร่าน มีอัตราโทษประหารชีวิตรวมกันร้อยละ 90 ของการประหารชีวิตทั่วโลก นอกจากนี้ คนในประเทศซาอุดิอาระเบียยังคุ้นชินกับภาพการตัดสินโทษด้วยการประหารชีวิต ดังเห็นได้จากอัตราการประหารชีวิตที่ไม่เคยลดลงเลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า อำนาจรัฐในซาอุดิอาระเบียกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับกระแสโลก ที่ปัจจุบันมีความพยายามลดอัตราการประหารชีวิตให้น้อยลง

ฮาชาห์ได้เน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจซาอุดิอาระเบียต้องยุติรูปแบบของการลงโทษที่มีความโหดร้าย ทารุณ เช่นนี้โดยเร็ว

แปลและเรียบเรียงจาก

Saudi Arabia to behead disabled man for taking part in protests, 4 November 2016 http://www.independent.co.uk/news/world/middle-east/saudi-arabia-behead-disabled-protester-executions-reprieve-amnesty-a7396906.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท