Skip to main content
sharethis

แฟ้มภาพ (ที่มา เว็บไซต์ทำเนียบฯ)

14 พ.ย. 2559 เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าจัดระเบียบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และรถตู้โดยสารสาธารณะ ให้เกิดความเรียบร้อย โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับรัฐและคนส่วนใหญ่ ทั้งการป้องกันถนนชำรุดเสียหาย การลดปัญหาจราจรติดขัด และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนน

“ท่านนายกฯ มอบหมายให้ คค.บูรณาการกับจังหวัด และตำรวจทหารในพื้นที่ เข้มงวดตรวจตรารถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เช่น รถบรรทุก 10 ล้อ ต้องบรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 25 ตัน รถบรรทุกพ่วง ไม่เกิน 50.5 ตัน เพราะที่ผ่านมายังมีรถบรรทุกบางส่วนฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งผลให้ถนนชำรุดเสียหาย และรัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมแซมแต่ละปีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้สิ่งของที่บรรทุกเกิน เช่น สินค้าเกษตรและสินค้าก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย ที่บรรทุกเกินและไม่มีผ้าคลุม ยังตกหล่นบนพื้นถนน เป็นอันตรายต่อรถคันอื่น โดย คค. ได้ขอความร่วมมือให้รถบรรทุกชั่งน้ำหนักที่ด่านชั่งถาวรและด่านชั่งเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเตรียมปรับถนนยางมะตอยบริเวณสี่แยกต่าง ๆ ทั่วประเทศให้เป็นถนนคอนกรีต ลดปัญหาถนนชำรุดจากการเบรกของรถที่มีน้ำหนักมาก” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 เอาผิดกับผู้ประกอบการที่จงใจฝ่าฝืนหรือกระทำผิดซ้ำนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะต้องคิดให้รอบคอบ หากบังคับใช้กฎหมายปกติได้อย่างจริงจัง และผู้ประกอบการมีจิตสำนึก ไม่คำนึงถึงแต่กำไรของตนแต่เพียงอย่างเดียวแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ

ส่วนความคืบหน้าในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กม. โดยย้ายจุดจอดจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังสถานีขนส่งจตุจักร ปิ่นเกล้า และเอกมัย เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมือง และลดอุบัติเหตุลงได้เพราะรถได้รับการตรวจสอบมาตรฐาน ณ สถานีขนส่ง รวมทั้งขจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่คุมวินรถตู้ได้

“ขณะนี้พบว่าประชาชนเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น และได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ซึ่ง คค.ได้จัดรถ Shuttle bus ให้บริการรับส่งจากสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยฯ อย่างเพียงพอ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการร่วมใน 4 จุดดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในทุกด้าน ทั้งนี้ รัฐบาลเข้าใจดีถึงปัญหาค่าใช้จ่ายของทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสาร โดยจะควบคุมอัตราค่าโดยสารให้เกิดความเป็นธรรม และงดเว้นค่าจอดรถ ณ สถานีขนส่งเป็นเวลา 6 เดือนแก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งกำหนดมาตรการอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงส่วนรวมด้วย“ พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติข้อกำหนดดังกล่าว คค.จะดำเนินการลงโทษสูงสุดตามกฎหมายทุกกรณี และหากพบการกระทำผิดซ้ำซาก จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถ โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือร้องเรียนแจ้งเบาะแสปัญหาการใช้บริการรถตู้โดยสาร และพบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โทร.1584 ตลอด 24 ชม.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net