ศาลแพ่งเลื่อนนัดชี้สองสถานคดี ร.ต.เสียชีวิตระหว่างฝึก ให้ครอบครัวกับทัพบก เจรจาไกล่เกลี่ยก่อน

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ส่งใบแจ้งข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เวลา 9.00 น. ณ ห้องพิจารณาที่ 517 ศาลแพ่ง (ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ) ผู้พิพากษาศาลแพ่งออกนั่งพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ พ.2580/2559 คดีมารดาและภรรยา ร้อยตรีสนาน ทองดีนอก ฟ้องกองทัพบก เรียกค่าเสียหาย จากเหตุการณ์เสียชีวิตของร้อยตรีสนานในระหว่างฝึกหลักสูตรมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่นที่ 11

โดยในวันดังกล่าว เป็นวันนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ ศาลสอบถามทนายความโจทก์ และอัยการทนายความจำเลย แล้วเห็นพ้องกันว่าควรที่คู่ความทั้งสองฝ่ายจะได้เจรจาตกลงกันก่อน โดยให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยของศาล เมื่อศาลได้พิเคราะห์แล้ว จึงเห็นว่าควรเลื่อนการชี้สองสถานฯ ออกไปอีกหนึ่งนัด เพื่อให้ทางมารดาและภรรยาของร้อยตรีสนาน โจทก์ กับ กองทัพบก จำเลย ซึ่งเป็นคู่ความกัน ได้เจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าสินไหมทดแทนกันก่อน หากตกลงกันได้ก็จะเป็นประโยชน์แก่คู่ความทั้งสองฝ่าย โดยอัยการทนายความจำเลยจะได้ประสานงานกับกองทัพบก เพื่อให้ส่งผู้มีอำนาจตัดสินใจในการเจรจามาศาลในวันนัดไกล่เกลี่ยด้วย

ศาลจึงมีคำสั่งให้ส่งเรื่องไปยังศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำศาลแพ่งเพื่อดำเนินการตามกระบวนการไกล่เกลี่ยต่อไป โดยนัดหมายคู่ความทั้งสองฝ่ายมาที่ศูนไกล่เกลี่ย ในวันที่ 20 มกราคม 2560 เวลา 13.30 นาฬิกา และให้เลื่อนนัดชี้สองสถานฯ ไปเป็นวันที่ 27 มกราคม 2560 เวลา 13.30 นาฬิกา

คดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2559 ผู้พิพากษาศาลแพ่ง ได้มีคำสั่งให้เลื่อนนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ออกไปก่อน โดยศาลได้อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การภายในวันที่ 4 ต.ค. 2559 ตามที่จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การ  ซึ่งต่อมาจำเลยได้ยื่นคำให้การปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์ โดยจำเลยอ้างว่าการเสียชีวิตของร้อยตรีสนานฯ เกิดจากอุบัติเหตุอันเกิดจากเหตุสุดวิสัยมิได้เกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของครูฝึกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของจำเลย (กองทัพบก) เนื่องจากในวันเกิดเหตุ เป็นวันทดสอบการว่ายน้ำตามหลักสูตร ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกทุกคนรวมถึงร้อยตรีสนานฯจะต้องว่ายน้ำเป็นระยะทาง 600 เมตร หรือว่ายจำนวน 12 รอบ ภายในระยะเวลา 18.30 นาที ร้อยตรีสนานฯว่ายน้ำได้รอบที่ 5 ก็เริ่มว่ายน้ำเข้ามาเกาะขอบสระ ครูฝึกจึงได้ใช้เท้าเขี่ยมือร้อยตรีสนานฯ เพื่อให้ออกจากขอบสระและใช้เชือกรัดห่วงชูชีพฟาดไปที่ผิวน้ำกระตุ้นให้ร้อยตรีสนานฯ ว่ายน้ำต่อไปเพื่อให้ผ่านการทดสอบ ร้อยตรีสนานฯว่ายน้ำในรอบที่ 7 พอถึงช่วงน้ำลึกก็ค่อยๆ จมน้ำ ลงไปโดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนเหมือนที่วิญญูชนคนทั่วไปจะจมน้ำ กล่าวคือขณะร้อยตรีสนานฯกำลังจะจมน้ำไม่มีอาการตะกุยตะกายน้ำหรือมีท่าทีร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่จู่ๆ ร้อยตรีสนานฯ ก็ค่อยๆ จมน้ำลงไปเอง

ข้ออ้างของจำเลยตามคำให้การนั้นเป็นประเด็นข้อเท็จจริงที่คู่ความทั้งสองฝ่ายจะได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบต่อสู้กันต่อไป โดยโจทก์ได้กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นหัวหน้าครูฝึกใช้เชือกสำหรับร้อยเครื่องชูชีพตีฟาดบริเวณร่างกายของร้อยตรีสนานฯ และบังคับให้ร้อยตรีสนานฯ ว่ายน้ำไปกลับในสระอย่างต่อเนื่องจนเกินขีดความสามารถของร่างกาย ทั้งยังไม่รีบให้ความช่วยเหลือเมื่อร้อยตรีสนานฯ จมลงในสระว่ายน้ำ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท