Skip to main content
sharethis

8 พ.ย. 2559  เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขอัตราโทษปรับในภาค 2 ความผิด) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

ซึ่งสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีประเด็นอังนี้  1. แก้ไขเพิ่มเติมกรณีการอายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินเพื่อใช้ค่าปรับหรือการกักขังแทนค่าปรับ ถ้ามิได้ทำภายในกำหนดห้าปีนับแต่วันที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดจะยึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สิน หรือกักขังไม่ได้ 2. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัส โดยกำหนดให้มีระวางโทษปรับในสัดส่วนอัตราโทษจำคุกหนึ่งปีต่ออัตราโทษปรับสองหมื่นบาท จากเดิมที่กำหนดเฉพาะโทษจำคุก

และ 3. แก้ไขปรับปรุงอัตราโทษปรับในภาค 2 ความผิด โดยเพิ่มอัตราโทษปรับในสัดส่วนอัตราโทษจำคุกหนึ่งปีต่ออัตราโทษปรับสองหมื่นบาท

โดย พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา โดยแก้ไขอัตราโทษปรับในภาค 2 ความผิด เนื่องจากได้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22 ) พ.ศ.2558 ซึ่งแก้ไขอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษ ในภาค 3 เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ในขณะที่อัตราโทษปรับสำหรับความผิดในภาค 2 ไม่ได้แก้ไขเพิ่มเติม จึงเกิดความไม่สอดคล้อง ครม.จึงเห็นชอบให้ปรับภาค 2 ให้เหมาะสมกับภาค 3 นอกจากนี้ ได้พิจารณาแล้วความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส มีบทเฉพาะกำหนดโทษจำคุกไม่ได้กำหนดโทษปรับไว้ ทำให้ศาลพิจารณาลงโทษจำคุกได้เพียงสถานเดียวซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับลักษณะของการจัดทำความผิดหรือผลของการกระทำความผิดที่มีความร้ายแรงแตกต่างกันส่งผลให้สภาพบังคับของโทษทางอาญาไม่เกิดประสิทธิภาพเต็มที่
 
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การปรับปรุงอัตราโทษปรับในภาค 2 ความผิด โดยเพิ่มอัตราโทษปรับ ในสัดส่วนอัตราโทษจำคุก 1 ปีต่ออัตราโทษปรับ 20,000 บาท ซึ่งปัจจุบันปรับ 2,000 บาท เพิ่มโทษปรับสำหรับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งปัจจุบันกำหนดโทษจำคุกเท่านั้น เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดโทษให้เหมาะสมกับพฤติการณ์ของการกระทำผิด จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี ตามมาตรา 297 และปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท และมาตรา 298 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 ปีและปรับตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท และแก้ไขเพิ่มเติม ขณะที่มาตรา 99 กำหนดำเพิ่มกรณีอายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สิน ใช้ค่าปรับที่ต้องทำภายในกำหนด 5 ปี นับแต่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net