Skip to main content
sharethis

อานดี้ ฮอลล์ นักสิทธิแรงงานข้ามชาติอังกฤษ แถลงออกนอกประเทศไม่มีกำหนดกลับ ชี้ปัญหาคดีความสร้างอุปสรรคในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ


แฟ้มภาพ 20 ก.ย. 2559

7 พ.ย. 2559 เมื่อกลางดึกของคืนวานนี้ อานดี้ ฮอลล์ นักสิทธิแรงงานข้ามชาติชาวอังกฤษ ส่งแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชนผ่านอีเมล ระบุว่า ได้ตัดสินใจเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยในวันนี้ (7 พ.ย.) โดยไม่มีกำหนดกลับ เนื่องจากแม้เขาจะเพิ่งชนะคดีที่ถูกบริษัทเนเชอรัล ฟรุต ฟ้องหมิ่นประมาท จากการให้สัมภาษณ์สื่ออัลจาซีราในเมียนมาร์ ในชั้นศาลฎีกา แต่การทำงานยังมีอุปสรรคอยู่มาก เมื่อมีปัญหากับผู้ประกอบการ โดยเขาเองมีคดีที่ถูกศาลตัดสินให้มีความผิดฐานหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการจัดทำวิจัยและนำเข้าสู่เว็บไซต์ฟินวอชท์ และแจกเอกสารในการแถลงข่าวงานวิจัยเรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติ รวมถึงมีคดีที่แรงงานจะฟ้องผู้ประกอบการฟาร์มไก่อีกหลายคดีที่ล้วนแต่เป็นข้อพิพาทแรงงานที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในด้านการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ อันทำให้การทำงานของเขายากลำบากยิ่งขึ้น

"เพื่อให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลง และให้เวลาหลายฝ่ายได้ตระหนักและทำความเข้าใจถึงสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานข้ามชาติ และความจำเป็นที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนควรได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างจริงจังได้ โดยปราศจากการถูกข่มขู่คุกคามและการดำเนินคดีเพื่อสกัดกั้นการทำงาน ผมจึงได้หารือกับเพื่อนร่วมงานและทีมทนายความ ในเรื่องที่ผมจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยยังไม่มีกำหนดกลับประเทศไทย" อานดี้ ฮอลล์ระบุ

อนึ่ง นอกจากคดีอาญาแล้ว ยังมีคดีที่บริษัท เนเชอรัล ฟรุต ยื่นฟ้องอานดี้ ฮอลล์ ในคดีแพ่งอีก 2 คดีสืบเนื่องจากการหมิ่นประมาทในคดีอาญา 2 คดีข้างต้น เรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 400 ล้านบาท

 

แถลงการณ์สาธารณะ เรื่อง การเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย - 7 พฤศจิกายน 2559

แม้นศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาดังที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้อ่านเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องผม และบริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด เป็นโจทก์ร่วม โดยผมมีฐานะเป็นนักวิจัยและนักสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีรา ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปี 2556 โดยได้กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูปในประเทศไทย และกล่าวถึงประสบการณ์จากการถูกบริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด ดำเนินการคดีอาญา โดยคดีดังกล่าวศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องแล้วก็ตาม

จากการที่ผมได้ทุ่มเททำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนมามากกว่า 11 ปี เพื่อมุ่งหวังให้ชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้รับสิทธิแรงงานและสิทธิอื่นตามกฎหมายไทยอย่างครบถ้วน แต่ในความเป็นจริงกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เพราะในการทำงานเรื่องดังกล่าวนี้ ยังมีอุปสรรคอยู่อีกมาก โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหากับผู้ประกอบการ ดังเช่น คำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำพิพากษาลงโทษผมในความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาทและพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ โดยมีมูลเหตุมาจากการที่องค์กรต่างประเทศ คือ Finnwatch ได้ตีพิมพ์รายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง โดยผมเป็นนักวิจัยร่วมในรายงานวิจัยฉบับนี้ ซึ่งศาลตัดสินว่า จำเลยกระทำผิดจริง ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อศาล จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 คงเหลือโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 150,000 บาท และเนื่องจากจำเลยเป็นนักกิจกรรมที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม จึงให้โทษจำคุกรอไว้ ซึ่งผมจะอุทธรณ์ในคดีนี้หลังจากทนายความของผมได้รับคำพิพากษา

และนอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีปัญหาแรงงานข้ามชาติที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องคดีแรงงานกับผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงไก่ในจังหวัดลพบุรี เป็นอีกกรณีหนึ่งด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อพิพาทแรงงานที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในด้านการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ อันทำให้การทำงานของผมยากลำบากยิ่งขึ้น

แม้ในขณะนี้ รัฐบาลไทยจะให้ความร่วมมือและช่วยเหลืออยู่บ้างแล้วก็ตาม โดยผมเองยอมรับว่า สถานการณ์บางอย่างของแรงงานข้ามชาติ ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะผมกับทีมงานองค์กรพัฒนาเอกชนและสหภาพแรงงาน ได้ทำงานร่วมกันเป็นภาคีกับสถานประกอบการหลายแห่ง รวมทั้งรัฐบาลและลูกค้าต่างประเทศด้วย แต่เนื่องจากในช่วงเวลานี้ สถานการณ์การต่อสู้เรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติสำหรับผมและคนที่ทำงานปกป้องสิทธิเหล่านี้ ต้องเผชิญกับความรุนแรงและความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ผมจึงคิดว่า เพื่อให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลง และให้เวลาหลายฝ่ายได้ตระหนักและทำความเข้าใจถึงสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานข้ามชาติ และความจำเป็นที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนควรได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างจริงจังได้ โดยปราศจากการถูกข่มขู่คุกคามและการดำเนินคดีเพื่อสกัดกั้นการทำงาน ผมจึงได้หารือกับเพื่อนร่วมงานและทีมทนายความ ในเรื่องที่ผมจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยยังไม่มีกำหนดกลับประเทศไทย และสุดท้ายผมได้ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศไทยในวันนี้ ตามที่ผมเตรียมการและตั้งใจไว้ ส่วนในเรื่องการดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ ผมได้มอบอำนาจให้หัวหน้าทีมทนายความดำเนินการแทน และมอบหมายงานที่จำเป็นให้กับทีมงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อานดี้ ฮอลล์
สนามบินสุวรรณภูมิ
07.11.2016

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net