Skip to main content
sharethis

จับตาประชุม กสท. จ่อเพิกถอนใบอนุญาต CTH จันทร์นี้ ขึ้นเป็นแบล็คลิสต์, ถกละครเจ้าพายุ ช่อง 7 กรณีมีฉากรุนแรง ส่อขัดมาตรา 37, พิจารณาแนวปฏิบัติการออกอากาศ กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต หลังจาก 30 วัน

30 ต.ค. 2559 สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 37/2559 วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ กรณีการขอยกเลิกการให้บริการโครงข่ายของบริษัทซีทีเอชฯ ซึ่ง กสท.มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตครบ 30 วันแล้ว แต่บริษัทซีทีเอชฯ ยังคงเพิกเฉยที่จะปฏิบัติตามประกาศ เงื่อนไขที่กำหนด โดยต้องส่งแผนเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ กสท.ก่อนยุติการให้บริการ และหลังจากการเพิกถอนใบอนุญาตแล้วสำนักงาน กสทช. จะบันทึกการกระทำดังกล่าวไว้เป็นประวัติด้วย เพื่อเป็นข้อมูลในการกำกับดูแลในอนาคต

“กรณีบริษัทซีทีเอชฯ แม้ว่าจะยุติการให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แต่การได้รับคำสั่งทางปกครองถูกเพิกถอนใบอนุญาตการให้บริการบริการโครงข่ายในลักษณะนี้ ส่งผลให้ต้องถูกบันทึกในประวัติการกระทำความผิดในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และนับเป็นครั้งแรกที่ กสท. จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบการที่ให้บริการโครงข่าย ซึ่งทำงานกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทซีทีเอชฯ ยุติการให้บริการไปแล้วเกือบ 2 เดือน ยังมีผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ดิฉันกำลังจี้ให้ทางบริษัทซีทีเอชฯ แก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนที่คั่งค้างอยู่ 55 กรณี และจะประสานกับทาง สคบ.ช่วยผู้บริโภคที่ต้องการฟ้องร้องต่อศาลด้วย เพราะผู้รับผิดชอบของบริษัทซีทีเอชฯ โดยตรงต่างทยอยลาออกกันไปเกือบหมดแล้ว” สุภิญญากล่าว

นอกจากนี้ยังมีวาระที่บอร์ดต้องถกกันเกี่ยวกับเนื้อหาของละครเรื่องเจ้าพายุ ของช่อง 7 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2559 ได้รับการร้องเรียนว่ามีฉากความรุนแรง อนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการเห็นว่าละครดังกล่าวมีภาพการกระทำที่ซาดิสม์ แสดงวิธีการฆ่า และการกระทำที่รุนแรง ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน และมีผลต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจอย่างร้ายแรง ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 และจัดระดับความเหมาะสมที่ “ท” ทุกวัย (รายการที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย) ซึ่งไม่สอดคล้องตามประกาศสำนักงาน กสทช. ที่เกี่ยวข้อง จึงเสนอลงโทษปรับทางปกครอง

ส่วนวาระอื่นๆ ที่น่าจับตาคือ การพิจารณาแนวปฏิบัติการออกอากาศ กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต หลังจาก 30 วัน ว่าควรมีแนวทางที่เหมาะสมอย่างไร  การพิจารณาร่างประกาศ กสทช. เรื่องแผนความถี่วิทยุกระจายเสียงระบบ F.M. และร่างประกาศ กสทช. เรื่องมาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงระบบ F.M.  การพิจารณาการลดหย่อนค่าธรรมเนียม การพิจารณาการกระทำความผิดของช่องรายการ Box Film และสถานีวิทยุกระจายเสียง สัมพันธ์ทุ่งครุ F.M. 96.25 MHz. ที่ออกอากาศโฆษณาอาหารและยาผิดกฎหมาย และจะได้รับคำสั่งทางปกครองและปรับตามแนวทางที่บอร์ด กสท.ได้วางไว้แล้ว วาระการโต้แย้งมติ กสท. กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องและแนวทางแก้ไขปัญหาการจัดตั้งสถานี การออกอากาศและมาตรฐานทางเทคนิคของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนกรณี ที่บริษัท GMMb แจ้งเปลี่ยนแปลงระบบการให้บริการแพ็กเกจ Z pay TV ทางกล่อง GMMZ ผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีการออกอากาศการ์ตูนแอนนิเมชั่น ไฮสกูลดีเอ็กซ์ดี ของช่องแก๊งค์การ์ตูนแชนแนลเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net