Skip to main content
sharethis

เลื่อนสืบพยานโจทก์ คดีธารา เครือข่ายบรรพต จำเลยในคดี ม.112 เป็น 3 มี.ค. เผยเกือบ 2 ปี สืบพยานได้เพียง 2 ลำดับจากทั้งหมด 11 ลำดับ ขณะที่จำเลยถูกควบคุมในเรือนจำเพราะไม่มีหลักทรัพย์ประกันตัว รวมทั้งศาลจังหวัดภูเขียวเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานคดี พรบ.ประชามติ 'ไผ่ ดาวดิน และเพื่อน'

27 ต.ค. 2559 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่ศาลทหารกรุงเทพ มีนัดสืบพยานโจทก์ลำดับที่ 3 คดีธารา (ขอสงวนนามสกุล) จำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ฐานนำเข้าและเผยแพร่คลิปข้อความเสียงที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่น ใส่ความหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำนวน 6 คลิป

ด้านอัยการศาลทหารแถลงต่อศาลว่า พยานที่มีนัดสืบในวันนี้ติดภารกิจไม่สามารถมาให้การต่อศาลได้ จึงขอให้ศาลสั่งเลื่อนการสืบพยาน ศาลจึงอนุญาตแล้วให้เลื่อนสืบพยานโจกท์ลำดับดังกล่าวเป็นวันที่ 3 มี.ค. 2560 
 
คดีดังกล่าวอัยการศาลทหารขอสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 11 ปาก นับตั้งแต่การนัดสืบพยานโจทก์ลำดับแรกเมื่อวันที่ 21  ธันวาคม 2558 จนถึงวันนี้ สืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วเพียง 2 ลำดับเท่านั้น ทำให้ธาราถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาเกือบ 2 ปีแล้ว และไม่สามารถหาหลักทรัพย์มาประกันตัวได้
 
ทั้งนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีข้อสังเกตว่ากระบวนการสืบพยานของศาลทหารล่าช้ากว่าศาลยุติธรรม เนื่องจากการสืบพยานในศาลยุติธรรมนั้นจะนัดพิจารณาต่อเนื่องโดยศาลจะกำหนดวันสืบพยานไว้ทุกลำดับล่วงหน้าทำให้มีกำหนดระยะเวลาแน่ชัด ในขณะที่ศาลทหารนั้นจะลงตารางนัดสืบพยานครั้งต่อครั้งไป และมีการเลื่อนสืบพยานบ่อยครั้งเนื่องจากพยานโจทก์ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐอ้างเหตุติดราชการ
 

เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานคดี พรบ.ประชามติ 'ไผ่ ดาวดิน และเพื่อน'

ขณะที่วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ รายงานด้วยว่า จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ วศิน  พรหมณี นักศึกษาคณะวิศวกรรมธรณี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เดินทางไปที่ศาลจังหวัดภูเขียวพร้อมกับทนายเพื่อตรวจพยานหลักฐาน ตามที่ศาลได้นัดหมาย
 
หลังจากนั้น อัยการได้แถลงต่อศาลว่า เนื่องจากจำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ และอัยการก็ได้ยื่นหนังสือแจ้งไปที่อธิบดีอัยการภาค 3 เพื่อพิจารณา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 59   ที่ผ่านมา
 
หลังจากนั้นอธิบดีอัยการภาค 3 จึงจะส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาถอนฟ้อง ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3  เดือน อัยการจึงขอเลื่อนัดคดีนี้ไปก่อนเพื่อรอฟังผลดังกล่าว
 
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีเหตุอันสมควรจึงเห็นควรให้เลื่อนนัดพร้อมเพื่อรอฟังผลดังกล่าวออกไป นอกจากนี้ศาลยังให้เหตุผลว่าที่เลื่อนนัดออกไปนานเนื่องจากคู่ความว่างไม่ตรงกันและจำเลยทั้งสองติดสอบ ศาลจึงนัดอีกครั้งวันที่ 20 ม.ค.2560 เวลา 14.00 น.
 
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 59 จตุภัทร์ และวศิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 10 นาย สนธิกำลังเข้าจับกุม ขณะทั้งสองคนทำกิจกรรมแจกเอกสารรณรงค์เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารโหวตโนของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ให้พ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดสดภูเขียว โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจค้นและยึดเอกสารที่ทั้งสองทำการแจกจ่าย ได้แก่ ความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 1 เล่ม, เอกสาร 7 เหตุผลที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 128  ชุด และเอกสารแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์จำนวน16 เล่ม หลังจากนั้น  เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองคนมาถึงสถานีตำรวจภูธรภูเขียว และได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คน ในข้อหาตามพ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรค 2 ก่อนจะมีการสอบคำให้การเบื้องต้น โดยทั้งสองคนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net