ภาพฮิลลารี คลินต้น โดย Hillary for Iowa, CC BY 2.0, Link
ภาพโดนัลด์ ทรัมป์ โดย Gage Skidmore, CC BY-SA 3.0, Link
เว็บไซต์โปลิติโค (Politico) ซึ่งเป็นสื่อที่เน้นนำเสนอเรื่องราวการเมืองทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ทำบทความตรวจเช็คข้อเท็จจริงการโต้วาทีผู้เป็นตัวแทนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตคือ ฮิลลารี คลินตัน และจากพรรครีพับลิกันคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนักข่าวของโปลิติโค เชน โกลด์มัคเคอร์ ระบุว่าเป็นการดีเบตครั้งที่ "น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ"
11 ต.ค. 2559 ถึงแม้โกลด์มัคเคอร์ จะบอกว่าดีเบตในครั้งนี้เต็มไปด้วยการด่าทอกันอย่างน่ารังเกียจ มีการขู่เอาอีกฝ่ายเข้าคุก หรือการเล่นเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตามในดีเบตครั้งนี้ก็มีเนื้อหาที่น่าสนใจที่นักข่าวและผู้เขียนบทความให้โปลิติโคหลายคนนำมาเผยแพร่เปรียบเทียบว่าข้ออ้างของนักการเมืองของสองพรรคนี้พูดตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งมีการคัดเลือกเรื่องที่น่าสนใจมานำเสนอดังนี้
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เติบโตช้าสุดอย่างที่ทรัมป์อ้าง และกำลังเติบโตขึ้นไม่ได้หยุดเติบโต
ทรัมป์อ้างว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปัจจุบันมีการเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2472 ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 1.4 และเมื่อช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 2.4 เทียบกับวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2552 ที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวลงเกือบร้อยละ 3 ดังนั้นในปัจจุบันถึงเรื่องนี้ยังเป็นหลักฐานที่ทรัมป์อ้างผิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หยุดเติบโต แต่ในความเป็นจริงแล้วเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเติบโตขึ้นและถึงแม้ทรัมป์จะอ้างถึงการเติบโตของจีดีพีร้อยละ 7 ของจีน แต่จีนก็กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจของตัวเองอยู่ทำให้จีดีพีของจีนกำลังเติบโตช้าลง
ทรัมป์อ้างการค้าขาดดุลเกินจริง
ทรัมป์อ้างว่าเมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเกือบ 800,000 ล้านดอลลาร์ แต่ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติของสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ ขาดดุล 500,000 ล้าน และสิ่งที่ทรัมป์อ้างถึงเป็นการขาดดุลในแง่ของสินค้าเท่านั้นไม่ได้นับรวมการส่งออกและนำเข้าบริการ จากการที่สหรัฐฯ ได้กำไรจากในภาคบริการเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์
ฮิลลารีเคยชื่นชมว่าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) มี "มาตรฐานสูงสุด" จริง
ถึงแม้ว่าในการดีเบตครั้งก่อนหน้านี้ฮิลลารีจะปฏิเสธว่าเธอไม่เคยชื่นชมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ว่ามี "มาตรฐานสูงสุด" (gold standard) แต่ทรัมป์ก็ยกเรื่องนี้มาโจมตีว่าคลินตันโกหก ซึ่งในแง่นี้ทรัมป์พูดตามข้อเท็จจริงว่าคลินตันเคยกล่าวปราศรัยในออสเตรเลียเมื่อปี 2555 ในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศว่า "TPP เป็นการสร้างมาตรฐานสูงสุดให้กับข้อตกลงทางการค้าในการเปิดเสรี มีความโปร่งใส มีการค้าที่เป็นธรรม"
อย่างไรก็ตามคลินตันประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าเธอต่อต้าน TPP และข้อตกลงการค้าอื่นๆ ที่ทำลายการสร้างงาน ถ้าเธอชนะการเลือกตั้งเธอจะต่อต้านมันในฐานะประธานาธิบดี
ทรัมป์อ้างผิด สหรัฐฯ ไม่ได้มีภาษีแพงที่สุดในโลก
ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะจ่ายภาษีค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วยังถือว่าเสียภาษีน้อยในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า สหรัฐฯ มีอัตราภาษีอากรร้อยละ 26 ต่อจีดีพีในปี 2557 เทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศสมาชิก OECD อยู่ที่ร้อยละ 34.4 ประเทศที่เก็บภาษีสูงสุดคือเดนมาร์กอยู่ที่ร้อยละ 50.9
คลินตันไม่ได้ต้องการขึ้นภาษีทุกคนอย่างหนัก
ทรัมป์กล่าวหาว่าคลินตัน "กำลังจะขึ้นภาษีทุกคนอย่างหนัก" แต่ไม่เป็นความจริง ถึงแม้ว่าคลินตันจะไม่ได้เปิดเผยแผนการเรื่องภาษีมากนักแต่เธอก็เคยสัญญาว่าจะไม่ขึ้นภาษีชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยกว่า 250,000 ดอลลาร์ต่อปี และอาจจะมีแผนการปรับลดภาษีให้ชาวอเมริกันรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางด้วย คลินตันเสนอมาตรการภาษีกับคนรวยเท่านั้น ข้อมูลจากศูนย์นโยบายภาษีระบุว่าถ้าทำตามแผนการคลินตันชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะได้รับการปรับลดภาษี
ในอีกแง่หนึ่งแผนการภาษีของทรัมป์ได้รับการวิเคราะห์จากลิลี่ แบตเชลเดอร์ ศาตราจารย์กฎหมายจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและอดีตที่ปรึกษาด้านการเงินของวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตระบุว่าแผนการภาษีของทรัมป์จะทำให้มีการเก็บภาษีจากคนที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางมากขึ้น คลินตันยังกล่าวถูกต้องที่ว่าแผนการภาษีของทรัมป์จะให้ประโยชน์ต่อคนรวย
มีหลักฐานว่าทรัมป์ทำธุรกิจกับรัสเซียจริง
ทรัมป์อ้างว่าเขาถูกกล่าวหาเรื่องที่มีผลประโยชน์กับรัสเซียโดยบอกว่าเขาไม่ได้ทำธุรกิจหรือมีการกู้ยืมจากรัสเซียแต่อย่างใด ถึงแม้โปลิติโคจะระบุว่าพวกเขาไม่รู้ว่าทรัมป์มีการทำธุรกรรมในระดับโลกมากแค่ไหน แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างแสดงให้เห็นว่าเขาทำธุรกรรมกับรัสเซีย อ้างจากรายงานข่าวเรื่องการประชุมอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์กในสื่อวอชิงตันโพสต์ปี 2551 ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่ามีสินทรัพย์จำนวนมากที่มาจากรัสเซีย
ไมเคิล โครว์ลีย์จากโปลิติโคยังเคยเขียนระบุไว้ว่าทรัมป์เคยนำผู้ประกวดมิสยูนิเวิร์สไปที่มอสโกและมีการตกลงทางธุรกิจกับ อราส อกาลารอฟ เศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชาวรัสเซียผู้มีความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ทีมข่าวกรองสหรัฐฯ พบว่ามีชาวรัสเซียแฮ็กทีมงานของคลินตันและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งสองพรรค
ทรัมป์อ้างว่าเขาไม่รู้ว่ารัสเซียทำการแฮ็กอีเมลของคลินตันหรือทีมงานของเธอหรือไม่ แต่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมากลุ่มข่าวกรองสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามว่ารัฐบาลรัสเซียให้แฮ็กเกอร์แทรกซึมและขโมยเอกสารจากองค์กรใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ระบุว่ามีกลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซียที่มีชื่อเสียงหลายกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "Fancy Bear" และ "Cozy Bear" อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รวมถึงการเจาะระบบอีเมลของทีมงานรณรงค์หาเสียงของคลินตันและเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับเจ้าหน้าที่ระดับมลรัฐจากทั้งสองพรรคด้วย
อย่างไรก็ตามข้ออ้างของคลินตันที่อ้างว่ารัสเซียแฮ็คอีเมลเพื่อให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
ไมค์ เพนซ์ พูดผิด: คนที่ก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย
ในประเด็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในแง่ความมั่นคง วุฒิสมาชิก ไมค์ เพนซ์ ตัวแทนเข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันกล่าวอ้างว่าผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย. 2558 เป็น "ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 2 คน" ซึ่งเป็นการกล่าวเท็จ เพราะจากการสืบสวนเปิดเผยแล้วว่าหนังสือเดินทางซีเรียที่พบในที่เกิดเหตุเป็นหนังสือเดินทางปลอม และคณะกรรมธิการยุโรปด้านกิจการต่างประเทศเปิดเผยแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีสัญชาติในยุโรปเองโดยเป็นคนที่เกิดในเบลเยียมหรือฝรั่งเศส
ไอซิสไม่ได้กำลังปฏิบัติการใน 32 ประเทศ
ทรัมป์อ้างว่าหลังจากที่คลินตันและโอบามานำกองทัพออกจากอิรักทำให้เกิดสูญญากาศจนสร้างกลุ่มก่อการร้ายไอซิสหรือไอเอสขึ้นมาและในตอนนี้ไอซิส "กำลังปฏิบัติการอยู่ใน 32 ประเทศ"
โปลิติโคระบุว่าสาเหตุที่สหรัฐฯ ถอนทัพจากสหรัฐฯ ในปี 2554 เนื่องจากทางการอิรักไม่ให้การคุ้มครองทางกฎหมายต่อกองทัพสหรัฐฯ อีกต่อไป และแม้ว่ากลุ่มไอซิสซึ่งแตกตัวมาจากกลุ่มอัลกออิดะฮ์ในอิรักจะควบคุมพื้นที่จำนวนหนึ่งในอิรักและซีเรียไว้ได้และตกเป็นเป้าการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2557 แต่ไอซิสก็ไม่ได้กำลังปฏิบัติการอยู่ใน 32 ประเทศ จากรายงานการวิจัยของสภาคองเกรสระบุว่ากลุ่มไอซิสมีอยู่ในประเทศอื่นๆ นอกจากอิรักและซีเรีย ได้แก่ อียิปต์, ซาอุดิอาระเบีย, ลิเบีย, ไนจีเรีย, อัฟกานิสถาน และเยเมน
นอกจากนี้เพนซ์ยังอ้างผิดๆ ว่าอิรักในตอนนี้ "เต็มไปด้วยกลุ่มไอซิส" แต่ในความเป็นจริงแล้วไอซิสกำลังเริ่มสูญเสียพื้นที่ยึดครองในพื้นที่ประเทศอิรักไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เมืองรามาดีเมื่อช่วงปลาย 2558 และฟาลลูยาห์เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา การบอกว่าอิรักเต็มไปด้วยไอซิสจึงเป็นการกล่าวเกินจริง
ทรัมป์เคยเรียกร้องให้ยกเลิกค่าแรงขั้นต่ำมาตรฐานรัฐบาลกลาง แต่ก็เคยเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แล้วก็กลับกลอกว่าสูงเกินไป
ทิม เคน ผู้ลงสมัครรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต กล่าวอ้างว่า ผู้สมัครพรรครีพับลิกันทั้งทรัมป์และเพนซ์มีจุดยืนต้องการลดค่าแรงขั้นต่ำ แต่เขาพูดความจริงไม่หมด เพราะจริงๆ แล้วทรัมป์พูดกลับกลอกไปมาในเรื่องนี้ ในการประชุมแถลงข่าวเมื่อเดือน ก.ค. ทรัมป์เคยเรียกร้องให้มีการขั้นค่าแรงขั้นต่ำระดับประเทศอยู่ที่อย่างน้อย 10 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค. ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ควรมีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำระดับประเทศ แต่ละรัฐควรตัดสินใจเอง และในเดือน พ.ย. 2558 ทรัมป์ก็เคยบอกว่า "ค่าแรงสูงเกินไป" และอ้างว่าถ้าหากขึ้นค่าแรงจะทำให้ธุรกิจสหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้
เคน พูดเกินจริงถึงแผนการที่ทรัมป์จะส่งผู้อพยพออกนอกประเทศ
เคนพูดในทำนองว่าทรัมป์จะไล่สำรวจทุกบ้าน ทุกโรงเรียน ทุกธุรกิจ เพื่อถีบผู้คน 16 ล้านคนออกจากประเทศ แม้ว่าทรัมป์จะเสนอเรื่องการส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายออกนอกประเทศอย่างจริงจังขึ้นมากกว่าสมัยโอบามาแต่ทรัมป์เคยกล่าวอ้างว่าจะมีการส่งตัว "คนต่างด้าวที่เป็นอาชญากร" 2 ล้านคนเท่านั้น หลังจากส่งตัวคนเหล่านี้ออกไปแล้วก็จะมีการพิจารณาจุดยืนในเรื่องผู้ลี้ภัยอีกครั้ง
ทรัมป์เคยสนับสนุนสงครามอิรัก แต่ต่อมาก็คัดค้าน
สิ่งหนึ่งที่ผู้แทนฝ่ายเดโมแครตนำมาโจมตีทรัมป์คือการอ้างว่าทรัมป์สนับสนุนให้มีการบุกอิรัก ซึ่งจริงครึ่งเดียว ทรัมป์เคยสนับสนุนการทำสงครามอิรักมาก่อนตั้งแต่ปี 2545 เขาเพิ่งมาพูดในเชิงวิจารณ์สงครามอิรักในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Esquire เมื่อปี 2547 หลังจากเกิดสงครามอิรักไปแล้ว 1 ปี
เรียบเรียงจาก
The POLITICO Wrongometer
http://www.politico.com/blogs/2016-presidential-debate-fact-check/1
UGLIEST DEBATE EVER, SHANE GOLDMACHER, Politico, 10-10-2016
http://www.politico.com/story/2016/10/2016-presidential-debate-donald-trump-hillary-clinton
Hillary Clinton: I Oppose TPP Now, I’ll Oppose It as President, Bloomberg, 12-08-2016
http://www.bloomberg.com/politics/videos/2016-08-11/clinton-i-oppose-tpp-now-and-i-ll-oppose-it-as-president
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)