กสท. เตรียมถกละคร ‘สงครามแย่งผู้’ ขัดมาตรา 37 จัดเรทผิด

กสท. เตรียมถกการจัดระดับความเหมาะสมละคร “สงครามแย่งผู้ To be Continued ตอน ลงเอย” ทางช่อง GMM 25 ได้จัดระดับความเหมาะสมที่ “ท” รายการที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย หลังอนุกรรมการฯ ชี้จัดระดับความเหมาะสม มีเนื้อหาค่านิยมเรื่องพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม กระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจเป็นการเข้าข่ายขัด ม. 37  พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ  เสนอลงโทษปรับ 50,000 บาท

9 ต.ค. 2559 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ครั้งที่ 35/2559 วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม นี้ มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เสนอ กสท. พิจารณาใช้มาตรการลงโทษปรับทางปกครองต่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ที่มิได้เสนอมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 7 วัน ตามมติ กสท.ครั้งที่ 26/2559 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 59 ในอัตราวันละ 20,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. ถึง วันที่ 9 ก.ย. 59 พร้อมทั้งพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการของจีเอ็มเอ็มแซท กรณี จีเอ็มเอ็ม บี ยุติบริการช่อง Fox Thai และ Nat Geo Wild (ฉบับวันที่ 29 ก.ย. 59) ตามที่จีเอ็มเอ็มแซทเสนอว่าไม่ใช่มาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ จึงเห็นควรใช้มาตรการบังคับทางปกครองที่สูงขึ้น โดยสั่งพักใช้ใบอนุญาต 7 วัน และหากยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาบริษัทฯ ส่งแผนเยียวยามาใหม่อีกครั้ง ขึ้นอยู่กับบอร์ด กสท. ว่าจะรับพิจารณาแผนดังกล่าวหรือไม่

สุภิญญา กล่าวว่า แผนเยียวยาที่ส่งบริษัทส่งมานั้นยังไม่ผ่านความเห็นของอนุกรรมการฯ เพราะชดเชยเป็นตัวเงินคืนให้สมาชิกน้อยเกินไป ทั้งมีเงื่อนไขมากจนไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค อนุกรรมการฯ เห็นว่าอย่างน้อยควรไม่ต่ำกว่าแนวทางเยียวยาของทางบริษัทพีเอสไอที่เสนอ กสท.ก่อนหน้านี้ ซึ่งหากต้องนำไปสู่มาตรการพักใช้ใบอนุญาต 7 วัน น่าจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย โดยเฉพาะผู้บริโภค เพราะจะทำให้จอดำกันหมด หวังว่าทางจีเอ็มเอ็มแซทจะปรับแนวทางเยียวยาผู้บริโภคที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยคิดถึงใจเขาใจเรา การคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็นธรรมาภิบาลของบริษัทสื่อด้วย

ที่ประชุมเตรียมพิจารณา วาระสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ระบบ FM คลื่นความถี่ 106.50 MHz ออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำที่เอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งสำนักงานได้เสนอ กสท. ให้มีคำสั่งให้ระงับการออกอากาศโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ผิดกฎหมายเป็นการชั่วคราวทันทีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีการออกาอากาศผลิตภัณฑ์อื่นใดในทำนองเดียวกัน จะกำหนดโทษปรับทางปกครองวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต่อไป

“สถานีวิทยุ 1 ปณ. ซึ่งเป็นของสำนักงาน กสทช.เองแต่กลับทำผิดกฎเรื่องโฆษณาผิด อย. ถือเป็นเรื่องตลกร้าย และทำให้ภาพลักษณ์ กสทช.เสียหาย อีกทั้ง เข้าข่ายขัดกันเรื่องหน้าที่ ทั้งในฐานะองค์กรกำกับ และ ผู้รับใบอนุญาตสื่อวิทยุ ทำให้คนสั่งปรับกับคนเสียค่าปรับจากการโฆษณาผิดกฎหมาย กลายเป็นคนเดียวกัน ทางแก้ไขที่ถูกต้องคือการเรียกคืนคลื่นวิทยุกลับมาจัดสรรใหม่ในปีนี้ก่อนครบเวลาคืนคลื่นตามแผนแม่บท” สุภิญญา กล่าว

นอกจากนี้ กสท. เตรียมถก กรณีการตรวจสอบพบเนื้อหารายการและการจัดระดับความเหมาะสมและการออกอากาศละคร “สงครามแย่งผู้ To be Continued ตอน ลงเอย ทางช่อง GMM 25 ได้จัดระดับความเหมาะสมที่ “ท” ทุกวัย(รายการที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย) ซึ่งอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการได้พิจารณาและเห็นว่าการจัดระดับความเหมาะสมไม่สอดคล้องตามประกาศสำนักงาน กสทช. ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีเนื้อหาค่านิยมเรื่องพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม และนำมาออกอากาศซ้ำหลายครั้งตามช่วงเวลาของรายการที่มีระดับความเหมาะสมที่ “ท” ทุกวัย ทั้งนี้ อนุกรรมการเสียงข้างมากเห็นว่ามีเนื้อหาที่มีผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจเป็นการเข้าข่ายการขัดต่อตามมาตรา 37 แห่ง พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ได้เสนอลงโทษปรับ 50,000 บาท

วาระอื่นน่าจับตา ได้แก่ วาระแผนปรับเปลี่ยนการประกอบกิจการโทรทัศน์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ให้เข้าสู่การประกอบกิจการโทรทัศน์บริการประเภทที่สาม ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการกระจายข้อมูลข่าวสาร เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลกับประชาชนและรัฐสภากับประชาชน การกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อการส่งเสริมสนับสนุนในการเผยแพร่และให้การศึกษาแก่ประชาชนและรัฐสภากับประชาชนเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข บริการข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์สาธารณะแก่คนพิการ คนด้อยโอกาส หรือกลุ่มความสนใจที่มีกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือบริการข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์สาธารณะอื่น รวมทั้ง วาระร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบ เอฟ.เอ็ม. และร่างประกาศ กสทช. เรื่อง มาตฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงระบบ เอฟ.เอ็ม. วาระรายงานการดำเนินการของคณะทำงานติดตามแก้ไขปัญหาด้านการใช้คลื่นความถี่ในการเปลี่ยนผ่านการรับส่งสัญญาณโทรทัศน์จากระบบแอนะล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลและขอขยายวาระการดำรงตำแหน่ง วาระแนวทางปฏิบัติในการส่งรายงานการประเมินประเภทรายการฯ หรือเอกสารหลักฐานอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นรายการข่าวสารหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเพื่อยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต วาระเพื่อทราบผู้รับใบอนุญาตไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปีในแต่ละปี(สิ้นรอบระยะเวลาบัญชีภายในปี 2555 – 2558) วาระเพื่อทราบรายงานการดำเนินการโครงการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สื่อและกิจกรรมรณรงค์เสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับส่งโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่มีการเซ็นต์สัญญาเมื่อปลายเดือนมิ.ย. 2559 ภายในกรอบวงเงิน 53,565,730.10 บาท ติดตามผลการประชุมในวันจันทร์นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท