นัดสมานฉันท์ 5 จำเลย 'คดีประชามติบ้านโป่ง' ยืนยันต่อสู้คดี เพื่อประโยชน์สาธารณะ

5 จำเลยคดีประชามติบ้านโป่ง ลั่นต่อสู้คดีเพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เชื่อไม่ได้บิดเบือน หยาบคายหรือปลุกระดม 

21 ก.ย. 2559 ที่ศาลจังหวัดราชบุรี มีนัดสมานฉันท์ หรือ นัดคุ้มครองสิทธิประชาชน ในคดีที่จำเลย 5 คน ประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) นักศึกษา และนักข่าว ถูกฟ้องในความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ โดยกล่าวหาว่ามีการแจกสติ๊กเกอร์ Vote NO เมื่อ 10 ก.ค. โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่าจะขอใช้สิทธิต่อสู้คดี ไม่อาจรับสารภาพได้ แม้ผู้พิพากษาจะแจ้งว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นเพียงกฎหมายเฉพาะ มีบทลงโทษเพียงเพื่อป้องปรามการกระทำผิด ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจได้มากในการพิจารณา และการทำประชามติก็เสร็จสิ้นลงแล้ว ขณะที่ทนายจำเลยแถลงว่าจากการหารือกัน จำเลยทั้งหมดประสงค์ต่อสู้คดีเพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เนื่องจากเชื่อว่าการกระทำของตนเองไม่เป็นการบิดเบือน หยาบคายหรือปลุกระดม อีกทั้งจำเลยทั้งหมดอายุยังน้อยและหลายคนกำลังศึกษา หากรับสารภาพจะทำให้มีประวัติคดีติดตัว

ปกรณ์ อารีกุล สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ แถลงว่า การแจกจ่ายสติ๊กเกอร์กระทำในหลายที่ และเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออก แม้แต่สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต.เองก็ให้ความเห็นในทางสาธารณะว่าสติ๊กเกอร์ดังกล่าวไม่เป็นความผิด หากรับสารภาพเท่ากับสร้างบรรทัดฐานว่าการเห็นต่างจากรัฐเป็นความผิด จะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและจะสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน อีกทั้งยังผิดจากความเชื่อโดยสุจริตของตนเอง

ทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวประชาไท แถลงว่า ในฐานะผู้สื่อข่าวเพียงร่วมเดินทางมาทำข่าวชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี จึงไม่อาจรับสารภาพได้ เพราะต้องการยืนยันการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีประชาชนติดตามมาให้กำลังผู้ต้องหาจำนวนหนึ่ง และมีสื่อมวลชนในพื้นที่มารอทำข่าวหลังกระบวนการเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามถ่ายรูปด้วย

ด้านภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.แพร่ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ทำให้เขาต้องเดินทางจากแพร่มาราชบุรีบ่อยครั้ง มีค่าใช้จ่ายสูง และส่งผลกระทบกับการเรียนปีสุดท้าย เขาได้ขออนุญาตอาจารย์ไว้แล้วแต่มีเงื่อนไขว่า ขณะเรียนในมหาวิทยาลัยจะต้องไม่ขาดเรียนแม้แต่ครั้งเดียว

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 9.30 น. ผู้ต้องหาและทนายเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมแก่อัยการสูงสุด ผ่านสำนักงานอัยการจังหวัดราชบุรีเพื่อขอให้ถอนฟ้องคดีดังกล่าว โดยหนังสือขอความเป็นธรรมระบุว่า ในส่วนนักกิจกรรมนั้น การดำเนินคดีไม่เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ เอกสารต่างๆ อยู่บนฐานข้อเท็จจริงสามารถพิสูน์ได้ในทางกฎหมาย ไม่ใช่ข้อความเท็จ การแสดงความคิดเห็นในเรื่องประชามติดังกล่าวจึงเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ส่วนกรณีของนักข่าวนั้นเพียงแต่ติดตามไปทำหน้าที่รายงานข่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ก่อนหน้าถูกจับกุม สมาชิกกลุ่ม NDM นำโดยปกรณ์ อารีกุล, อนุชา รุ่งมรกต และ อนันต์ โลเกตุ เดินทางมาที่ สภ.บ้านโป่ง เพื่อให้กำลังใจกลุ่มชาวบ้านที่จัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติซึ่งถูกหมายเรียกรายงานตัวตามความผิดฐานขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่องการมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองและได้เดินทางมาตามหมายเรียกรายงานตัว 18 คน ส่วนนายทวีศักดิ์ นักข่าวประชาไทนั้นเดินทางมากับนายปกรณ์ด้วยเพื่อติดตามทำข่าว อย่างไรก็ดี ก่อนเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอค้นรถกระบะของปกรณ์ที่ใช้เดินทางมาและควบคุมตัวทั้ง 4 คนไว้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ระบุว่าทั้ง 4 คนมีเอกสารและสติ๊กเกอร์รณรงค์ประชามติและมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมาทำการแจกเอกสาร ซึ่งเป็นข้อหาความผิดตามมาตรา 61 วรรค 2 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ที่ระบุถึงความผิดในการร่วมกันดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียงในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใด ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างหนึ่งอย่างใด หรือไม่ออกเสียง

จากนั้นในช่วงค่ำ มีการควบคุมตัว ภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาจากบ้านพักใน จ.ราชบุรีด้วย ในข้อหาผิด พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรค 2 โดยในการเข้าตรวจค้นบ้านและจับกุม มีเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจ และอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2559 เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งเป็นคำสั่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเฉพาะในการกระทำอันเป็นความผิดตามที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายคำสั่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเขาด้วยโดยอ้างว่ามีรูปปรากฏกับผู้ต้องหา 4 คนก่อนหน้า และจึงถูกดำเนินคดีในคดีนี้ด้วยเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท