Skip to main content
sharethis

ระบุการเคลื่อนไหวได้ลดจำนวนน้อยลง และต้องการให้ต่างชาติยอมรับเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ชี้หากมีการเคลื่อนไหวมากๆ แล้วเศรษฐกิจมันก็แย่ลงไปอีก มันจะเป็นความผิดของใคร พร้อมแจงปมกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ ครม.ส่วนหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้

ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบ

13 ก.ย. 2559 เวลา 15.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศไทยในปัจจุบันว่า สถานการณ์ความมั่นคงมีความสงบสุขขึ้น แต่ยังคงมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในทางเปิดเผยอยู่บ้าง ส่วนความเคลื่อนไหวในทางปิดได้มีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา หากพบความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะเคลื่อนไหวก็ตามขอให้นึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก เพราะปัจจุบันประเทศชาติต้องเผชิญปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และปัญหาทางเศรษฐกิจ ถ้ามีการเคลื่อนไหวมาก ๆ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้น

"สถานการณ์มีความสงบสุข อยู่ได้ด้วยดีนะ การเมืองก็มีการเคลื่อนไหวอยู่บ้างในทางเปิด ในทางปิดก็สืบสภาพอยู่ ถ้าเกิดมีการตรวจพบว่ามันทำผิดกฏหมายก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายมันก็มีอยู่แค่นั้นนั่นล่ะ แต่สำคัญ ใครจะเคลื่อนไหวอะไรก็ตามให้นึกถึงประเทศชาติเวลานี้บ้าง เราต้องเผชิญกับหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนปลง ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นถ้าท่านเคลื่อนไหวมากๆ แล้วเศรษฐกิจมันก็แย่ลงไปอีก ประชาชนก็ไม่กล้าออกมาสัญจรไปมาจับจ่ายใช้สอย แล้วมันจะเป็นความผิดของใครล่ะ"  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สำหรับการเดินทางไปเยือนต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับต่างประเทศ และชาวต่างชาติก็มีความเข้าใจที่ดีต่อประเทศไทย รวมถึงความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย เพราะฉะนั้นคนไทยทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติเกิดรับรู้ที่ดีต่อประเทศไทย

ส่วนกรณีการออกคำสั่งมาตรา 44 สั่งยกเลิกให้ใช้ศาลทหารพิจารณาในคดีที่พลเรือนกระทำผิดคดีความมั่นคง และคดีอาญามาตรา 112 และให้ผู้กระทำผิดกลับไปขึ้นศาลยุติธรรมตามเดิม นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะประชาชนรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขมากขึ้น รวมถึงการเคลื่อนไหวได้ลดจำนวนน้อยลง และต้องการให้ต่างชาติยอมรับเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ และมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยมากขึ้นต่อไป

ปมกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงต้องออกตามพระราชบัญญัติ โดยได้แต่งตั้งให้ ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนรัฐมนตรี ส่วนการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงคนใหม่จะยังเป็น ดร.อุตตม สาวนายน หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากผลการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งจะพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำกระทรวงไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่กฎระเบียบ และการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลมากกว่า ส่วนการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ว่างอยู่นั้น ยังไม่มีการแต่งตั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณาก่อน

ครม.ส่วนหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้

สำหรับการตั้ง ครม.ส่วนหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้เกิดรูปธรรม โดยการแต่งตั้งบุคคลขึ้นมารับผิดชอบ แต่ไม่จำเป็นต้องประจำการอยู่ในพื้นที่ โดยลักษณะของการทำงานเป็นรูปแบบของคณะทำงาน เปรียบเสมือนเป็นผู้แทนของรัฐบาลอยู่ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่โดยตรง นำมาบูรณาการการทำงานระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยบุคคลที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นมารับผิดชอบจะทำหน้าที่กำกับดูแล และสื่อสารโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความตั้งใจในแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างจริงจัง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net