22 ส.ค. 2559 สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย (สพท.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ให้ปล่อยตัว จตุภัทร บุญภัทรรักษา ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีกับผู้คิดต่างทางการเมือง โดยระบุว่า จากการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่ผ่านมาภายใต้การปกครองของรัฐบาลคณะรัฐประหาร และม.44 ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐ ในเรื่องเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ดังกรณีปัญหาการละเมิดสิทธิเสรีภาพที่ จตุภัทร บุญภัทรรักษา (ไผ่) สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ภาคอีสาน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจับกุมตัวไปพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2559 ที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ด้วยข้อหา ก่อความวุ่นวายทำให้การลงประชามติไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในมาตรา 61(1) และมาตรา 61 วรรค 2 ของพ.ร.บ.ดังกล่าวจากการแจกเอกสารรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ยังมีกรณีอื่นๆ ที่รัฐได้จับกุมดำเนินคดีเป็นจำนวนมากในช่วงก่อนทำประชามติ

การดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นไปอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากศาลจังหวัดภูเขียวได้พิจารณาให้ฝากขังทั้งสองคนที่เรือนจำภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 ส.ค. 2559 ทำให้นายจตุภัทรประกาศไม่รับการประกันตัว เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำผิด นอกจากนี้ สภ.เมืองขอนแก่นได้ออกหมายเรียกในข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. จากการจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2559 อีกด้วย และเมื่อครบกำหนดฝากขัง พนักงานอัยการจังหวัด  ภูเขียวได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดภูเขียวในทันที และศาลจังหวัดภูเขียวได้ออกหมายขังนายจตุภัทรต่อ ซึ่งบิดาของนายจตุภัทรได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้ใบอนุญาตทนายความและเงินสดอีก 30,000 บาท นายจตุภัทรจึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

แถลงการณ์ สพท. ระบุด้วยว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเตรียมปล่อยตัวนายจตุภัทร เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่นได้เดินทางมาขออายัดตัวนายจตุภัทรต่อในคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 จากการทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2558 ซึ่งตำรวจขอนแก่นได้ขออนุมัติหมายจับนายจตุภัทรร่วมกับนักศึกษาจากกลุ่มดาวดินอีก 6 คน จากศาลทหารขอนแก่นไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายจตุภัทรขึ้นศาลทหารจังหวัดขอนแก่น โดยอัยการศาลทหารได้ยื่นฟ้องนายจตุภัทร และศาลทหารรับฟ้อง รวมถึงมีคำสั่งให้นำตัวนายจตุภัทรไปคุมขังที่เรือนจำกลางขอนแก่น

สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ เห็นว่า การดำเนินคดีกับนายจตุภัทรในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อละเมิดสิทธิเสรีภาพ และกระบวนการยุติธรรมที่เลือกปฏิบัติของเผด็จการทหาร ซึ่งเป็นการรังแกประชาชนที่คัดค้านหรือต่อต้านพวกตน การละเลยขั้นตอนในการสอบสวนและพิจารณาคดีที่เป็นการประกันสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลย การเร่งรัดการสอบสวน/พิจารณาคดีในบางครั้ง แต่กลับถ่วงเวลาการสอบสวน/พิจารณาคดีในบางครั้ง อันก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ฝ่ายผู้ต้องหา/จำเลยและครอบครัว การอายัดตัวต่อในคดีอื่นหลังจากที่ประกันตัวแล้ว เป็นต้น

การจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 จึงเป็นการที่รัฐผูกขาดการให้ข้อมูลข่าวสาร โฆษณาชวนเชื่อให้ข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว ในขณะที่หากประชาชนไม่เห็นด้วยกลับถูกมองว่า บิดเบือนและ/หรือปลุกระดมทางการเมืองก่อความวุ่นวายต่างๆ นานา และกลายเป็นเหยื่อของก.ม. กระบวนการดังกล่าวจึงเป็นการขัดต่อมาตรฐานประชาธิปไตยสากล ไม่มีความเป็นอิสระและไม่ยุติธรรม และไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดำรงอยู่

สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐปล่อยตัว จตุภัทร ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีกับผู้คิดต่างทางการเมืองทุกคน เพื่อความสมานฉันท์ของคนในประเทศ