ที่มาภาพ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (New Democracy Movement - NDM)

20 ส.ค. 2559 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (New Democracy Movement - NDM) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ให้ปล่อยตัวจตุภัทร บุญภัทรรักษา (หรือ ไผ่ ดาวดิน) โดยปราศจากเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีกับนักโทษทางการเมือง โดยระบุว่า ตามที่ จตุภัทร สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ภาคอีสาน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจับกุมตัวไปพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2559 ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยแจ้งข้อหาก่อความวุ่นวายทำให้การลงประชามติไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61(1) และมาตรา 61 วรรค 2 จากการแจกเอกสารรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

ต่อมาศาลจังหวัดภูเขียวได้พิจารณาอนุญาตให้ฝากขังทั้งสองคนที่เรือนจำภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 สิงหาคม 2559 ซึ่งจตุภัทรได้ประกาศไม่รับการประกันตัว ในระหว่างการถูกดำเนินคดี  จตุภัทรยังถูกแจ้งข้อหาจากพนักงานสอบสวนเรื่องไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ เนื่องจากยืนยันว่าตนไม่ได้กระทำผิด และถูก สภ.เมืองขอนแก่นออกหมายเรียกในข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. จากการจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2559 อีกด้วย

เมื่อครบกำหนดฝากขังในวันที่ 19 ส.ค. 2559 พนักงานอัยการจังหวัดภูเขียวได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดภูเขียวในทันที และศาลจังหวัดภูเขียวได้ออกหมายขังจตุภัทรต่อไป ซึ่งบิดาของจตุภัทรได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้ใบอนุญาตทนายความและเงินสดอีก 30,000 บาท จตุภัทรจึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ระหว่างเจ้าหน้าที่เรือนจำเตรียมปล่อยตัวจตุภัทร เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่นได้เดินทางมาเตรียมขออายัดตัวจตุภัทรต่อในคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 จากการทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2558 ซึ่งตำรวจขอนแก่นได้ขออนุมัติหมายจับ จตุภัทร ร่วมกับนักศึกษาจากกลุ่มดาวดินอีก 6 คน จากศาลทหารขอนแก่นไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ทางด้านมารดาของจตุภัทรเมื่อได้รับทราบถึงการอายัดตัว จึงได้ขอพบจตุภัทรเพื่อให้ลงนามในเอกสารมอบฉันทะในการลงทะเบียนเรียน ซึ่งจะต้องทำภายในวันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลับไม่อนุญาต จนมารดาและน้องสาวของจตุภัทรต้องออกมาคุกเข่าขวางรถที่จะนำตัวจตุภัทรออกไปยังศาลทหาร จนเกิดเป็นภาพปรากฏไปยังสื่อสังคมออนไลน์แล้ว เป็นเวลาถึงเกือบ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงยอมออกมาเจรจาให้มารดาของจตุภัทรเข้าพบบุตรชายได้ และหลังจากที่จตุภัทรถูกนำตัวออกจากเรือนจำภูเขียวเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวจตุภัทรขึ้นศาลทหารจังหวัดขอนแก่น โดยอัยการศาลทหารได้ยื่นฟ้องจตุภัทร และศาลทหารได้รับฟ้อง รวมถึงมีคำสั่งให้นำตัวจตุภัทรไปคุมขังที่เรือนจำกลางขอนแก่น เสร็จสิ้นการพิจารณาภายในเวลาประมาณ 21.00 น.

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่มีความเห็นว่าการดำเนินคดีกับจตุภัทรในครั้งนี้เป็นภาพที่แสดงได้เป็นอย่างดีถึงการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมโดยเผด็จการทหารเป็นเครื่องมือเพื่อคุกคามผู้ที่แสดงการคัดค้านหรือต่อต้านพวกตน ทั้งการออกกฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เช่น คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2559 การออกกฎหมายบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมปรกติ เช่น ประกาศ คปค.ฉบับที่ 25 บังคับผู้ต้องหาให้พิมพ์ลายนิ้วมือ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 37/2557 ให้อำนาจศาลทหารพิจารณาคดีพลเรือน การเลือกบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเฉพาะกับผู้ที่เห็นต่างจากพวกตน การละเลยขั้นตอนในการสอบสวนและพิจารณาคดีที่เป็นการประกันสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลย การเร่งรัดการสอบสวน/พิจารณาคดีในบางครั้ง แต่กลับถ่วงเวลาการสอบสวน/พิจารณาคดีในบางครั้ง อันก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ฝ่ายผู้ต้องหา/จำเลยและครอบครัว การอายัดตัวต่อในคดีอื่นหลังจากที่ประกันตัวแล้ว เป็นต้น

การกระทำดังกล่าวเป็นการที่รัฐมุ่งร้ายต่อประชาชนอย่างชัดแจ้ง หากรัฐบาลเผด็จการทหารยังคงกระทำการเช่นนี้ต่อไป ประชาชนย่อมไม่อาจทนต่อกฎหมายและการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมได้ ไม่ว่าประเทศจะอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแบบใด ปกครองด้วยคนดีมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันที่จะเกิดความสงบสุขในสังคมขึ้นได้

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ระบุตอนท้ายแถลงการด้วยว่า ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวจตุภัทรโดยปราศจากเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีกับนักโทษทางการเมืองทุกคน ทั้งที่ถูกดำเนินคดีอยู่ และที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต