เหตุระเบิดกลางเมืองตรังดับ 1 เจ็บ 6 ราย ผู้ว่าฯ ยันไม่ใช่ก่อการร้าย
ทั้งนี้มีผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 7 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าอยู่ที่ตลาดดังกล่าวเป็นชาย 4 คน และหญิง 3 คน ประกอบด้วย ณัฐพงษ์ แซ่โหล้ย อายุ 19 ปี บาดเจ็บบริเวณขาขวาและหลัง วิไลรัตน์ ฟ้องบางชัย อายุ 35 ปี บาดเจ็บกระดูกส้นเท้าซ้ายแตก หะมะ หมั่นหลี อายุ 44 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่เข่าขวา จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 51 ปี แผลบริเวณแผ่นหลัง แพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัดเป็นการเร่งด่วน วัทนี วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 45 ปี มีแผลหน้าอกด้านซ้าย สุนิษา พันธ์นภา อายุ 39 ปี มีแผลต้นขาขวา และ รุ่งทิพย์ คงพินิจกิจ อายุ 55 ปี มีแผลที่ขา มือ และต้นขา โดย 2 คนหลัง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์
เวลา 18.00 น. พล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรับทราบเหตุการณ์และควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 42 ค่ายศรีนครินทรา จ.นครศรีธรรมราช กว่า 10 นาย เป็นชุดเก็บกู้ระเบิดได้เก็บกู้ระเบิดอีก 1 ลูก ภายในศาลาริมทางตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ก่อนจะใช้ปืนยิงน้ำแรงดันสูงทำลายระบบวงจรในการกู้ระเบิด เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า ในส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
วรรณวิมล เนียมสม อายุ 32 ปี แม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า เหตุเกิดตอนประมาณบ่าย 3 โมงตรง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่กำลังเตรียมเปิดร้านขายของ จุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงศาลาที่นั่งพักริมทาง มีคนนั่งอยู่ประมาณ 7-8 คน ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีคนล้มฟุบกองอยู่กับพื้น ส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด สังเกตว่าน่าจะมาจากมีคนเอาระเบิดตั้งเวลามาวางไว้
มหาดไทยสั่งทุกจังหวัดเฝ้าระวังสูงสุด
ต่อมา ข่าวสดออนไลน์ รายงานด้วยว่า กฤษฏา บุญราช ปลัดกระทนวงมหาดไทย มีคำสั่งเร่งด่วน เนื้อหาดังนี้
ด่วนที่สุด
เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัด
เรียน ผวจ.และนายอำเภอ/กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้บริหารอปท.ทุกจังหวัด ตามที่เกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในย่านชุมชนและท่องเที่ยวพื้นที่ภูเก็ต/ตรังและอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 นั้น
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญประชุมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผบ.กกล.รส.จังหวัดรวมทั้งนายอำเภอเพื่อหารือในการวางมาตรการป้องกันแก้ไข มิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกโดยเฉพาะให้ระมัดระวังพื้นที่ย่านชุมชน/แหล่งท่องเที่ยว/สถานบริการรวมทั้งการลักลอบเผาทำลายสถานที่ราชการและมาตรการอื่นๆดังนี้
1. ขอให้จังหวัดต่างๆเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยปชช./สถานที่แหล่งท่องเที่ยวหรือพื้นที่จัดงานรื่นเริง/เครื่องเล่นต่างๆ/สถานีคมนาคมที่มีประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาใช้บริการจำนวนมาก
2. ประสานตร./กกล.รส.ผบ.หน่วยกำลังทหารประจำพื้นที่/ผู้บริหารอปท./ผู้จัดการรัฐวิสาหกิจฯลฯให้เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย/กล้องโทรทัศน์วงจรปิด/เครื่องดับเพลิง/อุปกรณ์แสงส่องสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดระยะเวลาด้วย
3. ขอให้มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบในการอำนวยการแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆหรือผบ.เหตุการณ์ประจำพื้นที่ไว้ด้วย
4. ขอให้เตรียมช่องทางติดต่อสื่อสารทั้งในพื้นที่และในส่วนกลางให้สามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลาด้วยในระดับอำเภอให้แจ้งนายอำเภอเชิญประชุมคกก.รักษาความสงบเรียบร้อยอำเภอเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่โดยให้ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลเรียกประชุมผู้นำหมู่บ้านคือกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/สมาชิก อปท.ประจำหมู่บ้านมาประชุมกำหนดวิธีการรักษาความปลอดภัยและดูแลพื้นที่ในหมู่บ้านร่วมกับกำลังพลหน่วยงานรัฐด้วย.
นายกฤษฏา บุญราช
ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)