ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เขียนบทความลงใน "นิวมันดาลา" ระบุว่าผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับของทหารนี้จะทำให้ประเทศอยู่ในภาวะเข้าตาจนมากยิ่งขึ้น หลังจากประสบปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองมานาน เขาระบุด้วยว่าประเทศอาจจะเข้าสู่ภาวะตีบตันทางการเมืองจากการที่ผู้มีอำนาจห่วงแต่จะรักษาอำนาจของตัวเอง กลายเป็นมีแต่คนแย่งชิงอำนาจอยู่ในระดับบนแทนที่จะเป็นห่วงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในระดับล่าง

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ (แฟ้มภาพ)

ปวินระบุในบทความของเว็บไซต์ด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2559 ว่าการลงประชามติในครั้งนี้ยังเป็นการสะท้อนความแตกแยกทางการเมือง มีการจับกุมตัวนักกิจกรรมที่ต่อต้านการรัฐประหารในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการลงประชามติ และในช่วงใกล้ลงคะแนนเสียงก็มีการพยายามต่อสู้แย่งชิงการส่งอิทธิพลถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ในบทความของปวินยังระบุถึงท่าทีของนักการเมืองต่างๆ โดยตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แต่ก็ทำอะไรขัดแย้งในตัวเองในแง่ที่เขาสนับสนุนโรดแมปส่วนที่เหลือของเผด็จการทหารอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามความคิดเห็นของอภิสิทธิ์ก็เป็นสัญญาณการแตกหักกับกลุ่ม กปปส. ในขณะที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ตอบโต้จุดยืนของอภิสิทธิ์ด้วยการประกาศยอมรับร่างรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐประหารและอ้างความชอบธรรมด้วยการปลุกวาทกรรมต่อต้านทักษิณขึ้นมาใช้อีก โดยอ้างว่าการรับร่างรัฐประหารเท่ากับเป็นการขับไล่ระบอบทักษิณ นอกจากนี้ยังมีฝ่ายของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ในฝั่งตรงข้ามก็มีหัวหน้าคณะรัฐประหาร พล.อ. ประยุทธ์ จันทรโอชา ประกาศสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ

ปวินมองว่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นการแบ่งฝ่ายในกระบวนการรัฐธรรมนูญจนชวนให้รู้สึกว่าอนาคตที่จะเกิดความปรองดองทางการเมืองดูริบหรี่

ทั้งนี้ปวินยังระบุอีกว่าเรื่องการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญยังเป็นเรื่องของการยอมรับหรือไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐประหาร ขณะที่คนโหวตโนจำนวนมากมีเหตุผลเพราะต้องการแสดงการไม่ยอมรับความชอบธรรมจากเผด็จการทหาร ในอีกฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มกปปส. ก็ใช้วิธีปลุกผีทักษิณเพื่อหลอกล่อให้ชนชั้นกลางยอมรับร่างรัฐประหาร ปวินมองว่าถ้าหากร่างรัฐประหารฉบับนี้ได้รับการอนุมัติก็จะทำให้ประชาธิปไตยไทยตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง

ปวินระบุต่อไปว่าถึงแม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับของทหารจะทำให้พรรคการเมืองที่มีอำนาจอย่างพรรคของทักษิณยึดครอบงำสภาแต่ก็มีข้อถกเถียงว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะส่งผลเสียหายต่อสถาบันประชาธิปไตยในระยะยาวหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศทางการเมืองเกี่ยวกับข่าวลือ [...] ก็ทำให้กลุ่มรอยัลลิสต์บางคนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต การรัฐประหารในปี 2557 [...] เป็นการที่กองทัพพยายามรักษาอำนาจและผลประโยชน์ตัวเองไว้ในยุคหลังจากนี้ ทำให้ในร่างรัฐธรรมนูญมีการเขียนไว้ในแบบที่ทำให้สถาบันการเมืองจากการเลือกตั้งอ่อนแอต่อสถาบันการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทำให้ในสายตาของคนที่เชื่อเรื่อง "รัฐพันลึก" แล้วมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแทรกแซงทางการเมืองในแบบอื่นเพื่อผลประโยชน์ของชนชั้นนำ

ปวินระบุว่าถึงแม้เขาจะมองประเทศไทยจากเมืองเกียวโตแต่ก็มองเห็นว่าประเทศอาจจะเข้าสู่ภาวะตีบตันทางการเมืองจากการที่ผู้มีอำนาจห่วงแต่จะรักษาอำนาจของตัวเอง กลายเป็นมีแต่คนแย่งชิงอำนาจอยู่ในระดับบนแทนที่จะเป็นห่วงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในระดับล่าง

"ไม่ว่าผลประชามติจะออกมาอย่างไรก็ตาม ผมก็มองเห็นว่าการเมืองจะยังคงตีบตัน" ปวินระบุในบทความ

เรียบเรียงจาก

Dim prospects for Thailand’s democracy, PAVIN CHACHAVALPONGPUN, New Mandala, 06-08-2016