7 ส.ค. 2559 บุญเกียรติ รักชาติเจริญ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงว่าขณะนี้เหลือเวลาอีกราว 2 ชม. จะหมดเวลาลงคะแนน พบว่าปัญหา ในระหว่างการเปิดการลงคะแนนตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา ศูนย์ประสารงานการลงประชามติ ได้รับรายงานทั้งทางโทรสารและแอพพลิเคชั่นไลน์ ได้รับรายงานเรื่องการฉีกบัตรเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ้นใน 14 จังหวัด รวม 21 หน่วยออกเสียง ได้แก่ นครปฐม ฉะเชิงเทรา พะเยา สมุทรสาคร ปทุมธานี ชลบุรี สุรินทร์ นครสวรรค์ ราชบุรี กรุงเทพฯ กาญจนบุรี อุบลราชธานี เชียงราย ยโสธร

บุญเกียรติ กล่าวว่าปัญหาส่วนใหญ่เป็นการฉีกบัตรเป็นสองส่วน เนื่องจากในบัตรมีคำถามสองคำถาม มีสองสี แบ่งเป็นสองส่วนและเหมือนมีรอยพับตรงกลาง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด แต่อย่างไรก็ดี ศูนย์ประสานงานการออกเสียงได้ส่งโทรสารไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดให้แจ้งไปยังผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่าไม่ต้องฉีกบัตรออกเป็นสองส่วน

ทั้งนี้ ผู้ที่ฉีกบัตรแล้วไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ถือเป็นการกระทำผิด แต่จะมีการดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ก็อยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่การฉีกทำลายบัตรนั้นเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติประชามติ มาตรา 59 ซึ่งระบุว่า ผู้ใดทําลายบัตรที่มีไว้สําหรับการออกเสียงโดยไม่มีอํานาจกระทําได้ หรือจงใจกระทําการด้วยประการใด ๆ ให้บัตรออกเสียงชํารุด หรือเสียหาย หรือกระทําการด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

ตร.สรุปคนทำผิดพ.ร.บ.11ก.ค.-6 ส.ค.ประชามติ 44 คดี

ขณะที่ ศูนย์อำนวยการดูแลความสงบเรียบร้อยการออกเสียงประชามติ หรือ ศรส.ปต. สรุปภาพรวมการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการออกเสียงประชามติ ระหว่างวันที่ 11 ก.ค. - 6 ส.ค. 2559 จากหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 95,328 หน่วย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ระดมกำลังตำรวจทั้งหมด 117,595 นาย ใช้งบประมาณกว่า 56 ล้านบาท ขณะที่ผลระดมกวาดล้าง สามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 2,401 กระบอก วัตถุระเบิด 27 ลูก กระสุนปืน 17,781 นัด จับกุมคดีเกี่ยวกับการพนัน 4,345 ราย ผู้ต้องหา 9,559 คน คดียาเสพติด 19,171 ราย ผู้ต้องหา 20,354 คน ส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มีทั้งหมด 44 คดี และความผิดตามป.อาญา 19 คดี

ที่มา : บีบีซีไทย - BBC Thai และ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.