Skip to main content
sharethis

<--break- />ใช้มาตรา 44 เรียกเข้าค่าย รายงานตัวแล้ว 7 คน ส่งต่อ มทบ.11 ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น เป็นคดีความมั่นคงต้องขึ้นศาลทหาร 

 

27 ก.ค.2559 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บ้านพักรับรองภายใน มทบ.33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ ทหารควบคุมตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจดหมายที่ถูกระบุว่ามีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยคำสั่งหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ควบคุมตัว 11 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่เพิ่งถูกให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ โดยอาศัยอำนาจมาตรา 44 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นายคเชน เจียกขจร นายกเทศบาลตำบลช้างเผือก

นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่เขต 1 พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกอบจ.เชียงใหม่

นางสาวธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ อาชีพทันตแพทย์

นายวิศรุต คุณะนิติสาร ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้แล้วเข้าโครงการคุ้มครองพยาน

นายนายอติพงษ์ คำมูล เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือก

นายกฤตกร ไพทะยะ คนขับรถผู้บริหารเทศบาลช้างเผือก

นางสาวเอมอร ดับโศรก

นางสุภาวดี งามเมือง

นายเทวรัตน์ อินต้า

นางกอบกาญจน์ สุคีตา

โดยมีผู้มารายงานตัวตามหมายเรียกในครั้งนี้ 7 คน คือ นายคเชน นางสาวธารทิพย์ นายวิศรุต นายนายอติพงษ์ นางสาวเอมอร นางสุภาวดี นางกอบกาญจน์ สำหรับบุคคลที่เหลืออีก 4 คนคือนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้รับแจ้งว่าอยู่ในระหว่างลาพักผ่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางเจ้าหน้าที่มีการแจ้งให้มารายงานตัวที่ มทบ.11 ทันทีที่กลับมาถึงประเทศไทย ส่วนนางสาวทัศนีย์ นั้นได้รับแจ้งว่าไปกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าให้เข้ารายงานตัวที่มทบ. 11 ภายในวันนี้ ส่วนนายกฤตกรและนายเทวรัตน์ยังไม่สามารถตามตัวได้ก็ได้แจ้งให้ญาติพาตัวมาพบกับเจ้าหน้าที่ทหารภายในวันนี้ มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับทันที

การออกคำสั่งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 11 คนมารายงานตัวในครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายวิศรุต คุณะนิติสาร พนักงานเทศบาลตำบลช้างเผือก คนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่น และนายสามารถ ขวัญชัย ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้รับการสั่งการจากเครือข่ายผู้มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองให้ไปดำเนินการแจกใบปลิวต่อต้านการออกเสียงประชามติ และจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) ซึ่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าบุกค้นใน 10 จุดที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งเป็นที่ตั้งของธุรกิจตระกูลนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผบ.มทบ.33 กล่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ทางทีมกฏหมายของ คสช. ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่กองปราบปราม กรุงเทพฯ เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นซึ่งเข้าข่ายมาตรา 116 ถือเป็นอำนาจของศาลทหาร ทุกฝ่ายจึงเห็นว่าให้ทางกรุงเทพเป็นผู้ดำเนินคดี โดยจากปากคำผู้ต้องหาได้ให้การเป็นประโยชน์ถึงคนบงการ คนดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ในการก่อความไม่สงบในประเทศ ทางเราจึงได้ออกหมายเรียกทั้ง 11 คนมาพบเพื่อนำตัวไปที่มทบ. 11 ในการควบคุมตัวและดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย โดยจากนี้ทางกองปราบฯ จะเข้ามาดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อช่วงจากตำรวจภาค 5
ทั้งนี้ มาตรา 116 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือ
(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

หลังจาก พล.ต.โกศล ชี้แจงรายละเอียดการเรียกทั้งหมดให้มารายงานตัวแล้ว ได้นำตัวทั้ง 7 คนขึ้นรถตู้โดยมีกำลังทหารกว่า 30 นายควบคุม เพื่อนำตัวทั้งหมดเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปส่งตัวให้ที่ มทบ.11 กรุงเทพ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวนายวิศรุตไปอีกกลุ่มหนึ่ง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้บุกเข้าค้นบ้านพักของนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติด้วย

ด้านนายคเชน เจียกขจร นายกเทศบาลตำบลช้างเผือก เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ขอพูดอะไร ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนนางสาวธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ ทำงานเป็นทัตแพทย์ เปิดเผยว่าตนเองเป็นน้องของนางสาวทัศนีย์และนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ ตนไม่เคยยุ่งเรื่องการเมืองทำอาชีพเป็นหมอฟันอย่างเดียว ยังไม่ทราบว่าโดนเรื่องอะไรและไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ตรงไหน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net