Skip to main content
sharethis

รายงานสัมภาษณ์เพจการเมืองน้องใหม่มาแรง เพจ “ไข่แมว” พูดคุยเปิดใจหลังผ่าน 100,000 likes+ เผยการที่ไม่ใส่คำพูดลงในภาพ เพราะไม่อยากปิดกั้นความคิดผู้อ่าน แต่อนาคตอาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะ concept เพจไม่ได้ตายตัว พร้อมภาพพิเศษสำหรับผู้อ่านประชาไท

พูดถึงเพจที่มีการ์ตูนเสียดสีสังคมและการเมืองในช่วงนี้ มีมากมายหลายเพจด้วยกัน หลายเพจที่เคยมีมาเมื่อก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่ได้อัพเดทตัวเอง แต่เพจหนึ่งที่เป็นที่สนใจของคนใน Facebook ที่มีคนกดไลค์มากกว่า 100,000 คนแล้ว นั่นก็คือเพจ “ไข่แมว” (https://www.facebook.com/cartooneggcat/) ที่เริ่มโพสครั้งแรกในวันที่ 21 เม.ย. 2559 ผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน เพจนี้ก็มีผู้กดไลค์เพื่อติดตามเพจนี้อยู่ที่ 109,345 คน (เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2559 เวลา 14:35 น.)

ในโอกาสนี้ประชาไทจะชวนผู้อ่านไปรู้จักกับเพจดังกล่าว ถึงมีมุมมองการคิด การเขียน การวาดอย่างไร และหลายๆ ข้อสงสัยที่ยังติดค้าง หาคำตอบได้จากบทสัมภาษณ์ผ่านนี้

"การที่ไม่ใส่คำพูดลงในภาพ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความเชื่ออยู่แล้วในใจ เลยตีความได้หลายหลายต่างกันไปในแต่ละคน ไม่อยากผูกมัดอะไรผู้เสพ อีกอย่างมันสะท้อนให้เห็นธงในใจของแต่ละคน ซึ่งมันฝังรากไปแล้ว มันก็เหมือนอีโก้ของแต่ละคน" แอดมินเพจ ไข่แมว กล่าว
 

หน้าเพจ “ไข่แมว”

ประชาไท : ถามเรื่องชื่อเพจก่อนเลย มีที่มาที่ไปอย่างไร?

แอดมินเพจไข่แมว : ชื่อเพจนี่คิดเองครับ อยากได้แค่ 2 พยางค์สั้นๆ จำง่ายๆ อยากให้มีคำว่าแมวด้วยเพราะชอบแมว ก็เลยเติมไข่ไปข้างหน้า จริงๆ “ไข่แมว” นี้เป็นชื่อนามปากกาที่เคยใช้วาดรูปเล่นๆ แล้วเคยใช้ครับ ก็เลยเอาชื่อนี้มาใช้ ซึ่งคนก็จะเข้าใจว่าเป็น “ไข่แม้ว” “เลียไข่” อะไรอย่างงี้ ก็ตีความกันไป

อยากทราบว่ามีแรงบันดาลใจอะไรถึงได้วาดการ์ตูนแนวนี้?

แรงบันดาลใจภาพในเพจแรกๆ ก็มาจากศิลปินที่ชื่อ Joan Cornellà ครับ แค่มาปรับให้เข้ากับบ้านเมืองเราในปัจจุบัน สไตล์ไทยๆ แต่จริงๆ ก็ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจวาด 4 ช่องครับ 6 ช่องก็เคยวาด แต่ว่าไม่อยากให้ภาพมันเวิ่นเว้อเกินไป อยากจะกระชับให้มันเป็นจัตุรัส ดูจบง่ายๆ ในเฟซบุ๊ก ดีกว่า มันก็บีบการนำเสนอใน 4 ช่องเหมือนกันซึ่งต้องกระชับ ซึ่งก็ท้าทายดี

ซึ่งการ์ตูนช่องเดียวก็เคยวาดนะ แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องราว ซึ่งเคยลงไป 2 รูป (รูปทำท่าจับมือ กับ รูปซุเปอร์ฮีโร่ที่ตัวร้ายที่จะจับแม่) ก็เลยเหมือนเป็นการ์ตูนช่องเดียวไปในบางที เพราะเรารู้สึกว่าช่องเดียวมันก็พอแล้ว ก็ไม่อยากวาดให้มันเวิ่นเว้อหลายช่อง

ตัวอย่างการ์ตูนแบบช่องเดียวจากเพจ “ไข่แมว”

รู้จักกับ Joan Cornellà

Joan Cornellà Vázquez นักวาดการ์ตูนและวาดภาพประกอบชาวสเปน เกิดเมื่อ 11 มกราคม ค.ศ.1981 เขามักวาดการ์ตูนเป็นช่องๆ ในลักษณะที่ไม่ตายตัว (unsettling), มีความตลกขบขันแบบเกินจริง (Surreal humor) และมีความตลกร้าย (Black comedy) ซึ่งตลกร้ายของเขามักเป็นที่ถกเถียงถึงสาระสำคัญของการ์ตูนอยู่บ่อยครั้ง

ตัวอย่างการ์ตูนจาก Joan Cornellà

ที่มา:  Wikipedia https://en.wikipedia.org/wiki/Joan_Cornell%C3%A0 

มีขั้นตอนหรือวิธีวาดการ์ตูนหนึ่งอันอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง?

ส่วนใหญ่ก็มักจะหยิบยกเรื่องราวปัจจุบันมาใช้ จะร่างภาพคร่าวๆ ไว้ในหัวก่อนครับ แล้วค่อยวาดลงในมือถือ (บน iPhone) ส่วนมากภาพที่ลงในเพจจะคิดสดครับ ไม่ได้มีร่าง หรือมีต้นทางอะไรขนาดนั้น บางภาพคิดหัวข้อไว้ก่อนว่าเราจะเล่นประเด็นอะไรแล้วเม็มเก็บไว้ แต่บางทีก็ไม่ได้ใช้ครับ คิดไปคิดมาแล้วแบบ ไม่วาดมุขนี้ดีกว่า

ผมเลยประมวลผลในหัวตัวเองให้จบก่อน ถ้าเกิดเรายังคิดไม่จบแล้ววาดไป มันก็จบงานไม่ได้ มันก็จะทำให้ช้า ถ้าวาดไปแบบนั้นเผลอๆ มันก็ใช้ไม่ได้เลย เพราะเราเหมือนไม่มีอะไรในหัว ซึ่งทำไม่ได้อยู่แล้ว เลยต้องคิดให้จบให้ได้ก่อน

คุณวาดการ์ตูนช่วงเวลาไหน?

ไม่มีเวลาตายตัว บางทีก็วาดช่วงดึกๆ บางทีก็วาดบ่ายๆ เย็นๆ แล้วแต่ในจังหวะที่คิดออก และอยากจะวาด ไม่ตายตัวอ่ะครับ

รู้สึกอย่างไรกับเพจของคุณที่ได้ 100,000 likes+ ในเวลาแค่ 2 เดือน?

เฉยๆ เพราะผมก็เคยทำเพจมาเป็นแสนๆ ไลค์ ผมก็เลยไม่ได้คิดเรื่องไลค์อะไรนี้มากมาย แต่ก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่มากดไลค์ด้วยครับ

100,000 likes+ มีนัยหรือความหมายต่อผลงานที่คุณทำหรือไม่ อย่างไร?

ข้อดีก็คือคนก็มาสนใจเหตุการณ์บ้านเมืองมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่ไม่เคยสนใจการเมืองหรืออะไรเลย พอเราถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูน คนก็จะสนใจแล้วว่าการ์ตูนนี้มันจะสื่ออะไร มันทำให้คนที่เขาไม่สนใจ เขาอยากรู้เรื่องราว เขาก็ไปหาตามอ่านข่าวอะไรอย่างนี้เอง ผมว่าอันนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเขา

บางทีถ้าจะให้เขาไปตามเสพข่าว ที่มันหนักๆ ต้องไปตามอ่านอะไรยาวๆ บางคนเขาก็ไม่ว่างขนาดนั้น ผมก็เลยพยายามกระชับให้เขามากกว่า

หรือ 100,000 likes+ ที่ได้มาเพราะสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติด้วยหรือเปล่า?

คนที่ติดตามเพจเขาหาคนที่พูดแทนเขาไม่ได้มั้งครับ จริงๆ คนพูดแทนเขามันคงมีเยอะแหละ แต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาพิมพ์มากกว่า ไม่ค่อยมีการ์ตูนที่มันโดดออกมา ที่แบบว่าเล่นแรง แล้วก็มันไม่มีคำพูด มันทำให้เข้ามารวมกัน แล้วมาหาคำตอบกัน ถกกันอะไรอย่างนี้ ว่าความคิดเราถูกนะ ใช่หรออะไรอย่างนี้ อันนั้นน่าจะเป็นจุดที่เขาเข้ามากัน

มีตัวละครที่คุณวาดที่คนมักจะตีความเป็น “ประยุทธ์” หรือ “ทักษิณ” คุณคิดอย่างไร?

เขาคงคิดว่าเป็นประยุทธ์ก็เพราะว่าแต่งชุดทหารอะไรอย่างนี้ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ส่วนที่ตีความว่าเป็นทักษิณ เพราะว่าหน้าเหลี่ยมๆ ก็คงจะเหมือน จริงๆ ผมอาจจะวาด แจ๊ค หม่า ก็ได้

มีคนสงสัยว่าทำไมเพจนี้ถึงไม่โต้ตอบกับลูกเพจผ่านคอมเมนต์ เพราะเหตุใด?

เลือกที่จะไม่โต้ตอบดีกว่าครับ เพราะถ้าตอบไปซักครั้ง พอลงรูปแล้วมีคนสงสัย ไม่เข้าใจรูป คงรอผม ถามหาเฉลยจากผมอย่างเดียวแน่ แต่จริงๆ ก็เคยตอบเล่นตอนที่ลูกเพจทักหลังไมค์แบบเล่นๆ ขำๆ นะ อีกประเด็นคือหลีกเลี่ยงประเด็นดราม่าด้วยครับ ในการที่แอดมินจะลงไปคลุกวงในขนาดนั้น ผมว่าไม่ดีแน่นอนกับเพจแบบนี้ ถ้าเป็นเพจแบบอื่นก็ว่าไปอย่าง

กลัวเพจต้องถูกปิดหรือโดนรีพอร์ตให้ปิดเพจไหม?

ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วคับว่าอาจจะโดนปิด ส่วนเรื่องโดนรีพอร์ทก็โดนแล้วครับ จริงๆ ก็คงโดนมาอยู่เรื่อยๆ บางทีมันก็ไม่แจ้งเตือนสักเท่าไหร่ แต่พอโดนทีนึงก็แจ้งมาเลยว่าต้องลบรูปนี้ คือ เฟซบุ๊กเขาลบไปแล้วแหละ แค่มาบอกว่าเขาลบรูปนี้แล้ว โดยที่เราไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อะไรเลย

เหมือนเป็นระบบที่มันไม่โอเคเท่าไหร่เลยนะครับ รูปมันก็ไม่ได้ทำผิดกฏอะไรขนาดนั้น ไม่ใช่รูปโป๊เปลือยอะไรอย่างนี้ เป็นการ์ตูน คำพูดก็ไม่มี กลับโดนแบนเพราะว่าโดนคนเยอะๆ มารีพอร์ท มันเหมือนเราอุทธรณ์อะไรไม่ได้เลย แต่ก็ต้องยอมรับตรงจุดนี้

ภาพการ์ตูนที่ถูกรีพอร์ท และถูกลบไปแล้ว

อะไรที่คุณคิดว่าเป็นจุดเด่นของเพจนี้ ที่คนเข้ามากดไลก์เพจคุณ?

คงเป็นเพราะความไม่เข้าใจในมุขบางมุข แล้วคนเสพเกิดความอยากรู้ เลยต้องหาข้อมูลเองตามคอมเมนต์หรือหาข่าวอ่าน ทำให้เกิดเพราะโยชน์ต่อผู้เสพเอง อันนี้เป็นเรื่องของประโยชน์มากกว่า ส่วนจุดเด่นคงเป็นการ์ตูนใบ้ล่ะคับ ที่ต้องจินตนาการเอาเอง

จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจุดเด่นของเพจนี้คืออะไร คือบางทีเราก็อยากจะวาดไม่ให้มันโจ่งแจ้งมาก อยากให้มันตีความได้หลายแบบแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ก็เลยไม่ใส่คำพูดดีกว่า ถ้าใส่คำพูดปุ๊บ มันก็เหมือนจะเป็นการชักจูงเขาเกินไป ต้องเข้าอย่างใจนี้ทุกคน และมันจะดูสุ่มเสี่ยงต่อทางเพจผมด้วยที่ทำล้อเลียน

แล้วคุณคิดว่าการวาดการ์ตูนในแบบ “ไข่แมว” สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง?

คือถ้าเรามองในมุมผู้อ่านบางคน มันก็สะท้อนให้เห็นความคิดในหัวและความเชื่อในใจของแต่ละคน ก็บางคนเขาเชื่อไปแล้ว มันก็ต้องเห็นว่าถ้าเขาเห็นแย้งกับผม เขาก็จะมองอย่างไรทางผมก็ผิด และทางเขาต้องถูกอย่างนี้ บางคนต่อให้เขาอยากจะไปแย้งคนนั้น มันก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดเขาได้ ต่อให้ใส่เหตุผลเข้าไปมากมายแค่ไหน

การที่ไม่ใส่คำพูดลงในภาพ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความเชื่ออยู่แล้วในใจ เลยตีความได้หลายหลายต่างกันไปในแต่ละคน ไม่อยากผูกมัดอะไรผู้เสพ

อีกอย่างมันสะท้อนให้เห็นธงในใจของแต่ละคน ซึ่งมันฝังรากไปแล้ว มันก็เหมือนอีโก้ของแต่ละคน

คุณคิดว่าสภาพสังคม-การเมืองช่วงนี้เป็นอย่างไร?

คือบางคนก็อาจจะรู้สึกว่าดี บางคนก็ไม่ดี ต้องถามก่อนว่าคนที่เขาบอกว่าดี เพราะอาจจะไม่มีอะไรกระทบเขา แต่คนที่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่หรือมันไม่ดี เพราเขาได้รับผลกระทบมากกว่า

การที่ทำเพจอย่างนี้ขึ้นเป็นเพราะข้อจำกัดในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยหรือเปล่า?

ก็มีส่วนครับ มันก็เป็นเหมือนการวิพากษ์วิจารณ์ โดยถ้าเราใช้ภาษาพิมพ์มันก็จะแรงกว่า แต่พอเป็นการ์ตูนมันก็ซอฟต์ลง แล้วก็ความน่าสนใจมันดึงดูดสายตามากกว่าตัวหนังสือ

เขาอาจจะมองว่าการ์ตูนการเมือง คือการเรียกร้องทางการเมืองอย่างหนึ่งหรือเปล่า?

ผมเป็นเพจที่เป็นเหมือนตัวแทนของเขาก็ได้ ที่บางทีเขาอยากจะพูด แต่ไม่อยากจะพูดเพราะสุ่มเสี่ยง และก็เลือกที่จะแชร์ไปดีกว่า แล้วมันก็ปลอดภัยสำหรับเขาด้วย เหมือนเป็นปากกระบอกเสียงให้เขา อะไรแบบนี้

คุณคิดว่าเพจหนึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ไหม คิดว่าถึงขั้นนั้นไหม?

อย่างที่ผมบอก ผมเปลี่ยนอะไรใครไม่ได้หรอก แต่เพียงแต่ว่าผมอยากให้คนเขาฉุกคิดมากกว่า แล้วเขาจะได้รู้ว่าจริงๆ ลึกๆ ของตัวตนเขา เขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจะเชื่อในสิ่งที่เขาเจอ เขาจะเชื่อแค่ผม หรือเขาจะเชื่อรูปวาดรูปนี้หรอ คือเราชักจูงอะไรใครไม่ได้ ก็อย่างที่ผมบอก อยากให้ฉุกคิดมากกว่า

ตัวอย่างการ์ตูนแบบ 4 ช่องจากเพจ “ไข่แมว”

อนาคตของเพจคุณ คุณจะยังวาดต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ไหม คุณอาจจะหมดไฟหรือการเมืองมันสงบแล้ว คุณถึงจะหยุด?

อันนี้ก็ตอบไม่ได้ บางทีก็อาจจะไม่ได้มีมุขการเมืองก็ได้ มันก็อาจจะมีเรื่องของเหตุการณ์ปัจจุบัน ยังไงมันก็เหมือนทีวีที่เป็นช่องข่าว ยังไงทุกวันมันก็ต้องมีเรื่องราวเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหยิบเรื่องไหนมา เรื่องการเมืองสงบ เราก็ไม่รู้ได้ว่ามันจะสงบไหม คำว่าสงบคืออะไร ต่อไปมันอาจจะเป็นเพจที่วาดเรื่องราวปัจจุบันจริงๆ เลยก็ได้ การเมืองอาจจะซอฟต์ลงหรือไม่มีเลยก็ได้

มันก็เป็นไปได้ เพราะจริงๆ พอเริ่มมา คนมองว่าเพจผมเล่นแต่เรื่องนี้ก็จะมองว่าเป็นการเมือง พอผมไปวาดเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันขำๆ บ้างอะไรอย่างนี้ ก็กลับมามองว่าอย่าไปเล่นอะไรแบบนี้ แบบ mass mass เลย ผมก็เลยไม่เข้าใจ อ่าว มันคือมัน mass ยังไง ไม่ mass ยังไง mass ของคุณกับ mass ของคนอื่น มันก็ต่างกัน บางทีเพจก็จะเป็นอย่างนี้แทบทุกเพจ แต่คนพอเริ่มตามเยอะๆ เนี่ย เขาก็อยากจะ control ให้เพจเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อะไรแบบนี้ ผมก็เข้าใจนะ อาจจะไม่ถูกจริตแต่ละคน

ไอเรื่องเลิกวาดก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน บางทีถ้าเราเบื่อ บางทีคนเราก็มีจุดที่มันดาวน์ จุดที่ไม่มีอะไรจะวาดอย่างนี้ ก็มีบ้าง แต่คงจะไม่ถึงขนาดคงต้องปิด หรือถ้าไม่โดนปิดซะก่อน

บางทีคนก็อยากจะให้เพจผมเป็นเพจที่เล่นแต่การเมือง ล้อเลียนการเมืองอย่างเดียว หนักๆ ไปเลยอะไรแบบนี้ เขาก็อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ผมอยากให้คนทุกคนเข้ามาเสพได้มากกว่า

คุณก็เลยมองเป็นเพจที่คุณสร้างขึ้น เสมือนเป็นพื้นที่เปิดกว้างทางความคิดด้วยใช่ไหม?

ผมก็ไม่ได้ไปลบคอมเมนต์อะไร ใครจะเข้ามาด่า เข้ามาดราม่า ก็ปล่อยไป เคยแบนแค่คนเดียว จำได้ว่าช่วงแรกๆ แล้วตอนนี้ปลดแบนไปนานแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นเขาเข้ามาโพสโฆษณารัวมาก โพสทุกที่ โพสทุกรูปไม่หยุด ผมก็เลยต้องแบนไปก่อน แต่ผมจะไม่แบนคอมเมนต์อะไรที่เห็นต่างเลยนะ ก็ปล่อยให้เขาพิมพ์ไป และตอนนี้คนที่ผมแบนเรื่องโฆษณา ผมก็ปลดแบนไปแล้ว

การวาดการ์ตูนมันมีขอบเขตของความกลัว มันมีหรือไม่มี อย่างไร?

มันก็ต้องกลัวอยู่แล้ว มันไม่เกิดกับประโยชน์กับตัวเองถ้าเอาจริง แต่ว่าถ้ามันจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นมันน่าจะดีกว่า มันไม่ได้เป็นเหมือน hero อะไรหรอก แต่ว่าเรานำเสนอในแบบของเราเท่าที่ทำได้นะ มันก็เสี่ยงอยู่แล้วล่ะ

ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานผ่านมา มันมีอิทธิพลต่อการ์ตูนมุมมองความคิดคุณหรือการวาดการ์ตูนของคุณ?

ความขัดแย้งหลักๆ มันก็มาจากความเชื่อนั่นล่ะ เมื่อเรามีความเชื่อไม่ตรงกัน มันก็ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา หรือเรื่องอะไรก็ตาม ส่วนเรื่องอิทธิพลต่อการวาดการ์ตูน ของผมจะมองว่า ผมไม่เห็นกับความไม่เป็นธรรมมากกว่า ตัดเรื่องสีออกไปเลยนะ มันทำให้เราขับตรงนั้นออกมาเป็นรูปภาพ

ความขัดแย้งที่เกิดอย่างยาวนาน มันจะมีจุดจบไหม?

ผมก็ไม่รู้ทุกครั้งว่าจุดจบมันคืออะไร จุดจบมันอาจจะเป็นเหมือนว่ามันไม่มีอะไรหนักๆ เป็นเวลานานๆ หรือเปล่า นั่นเป็นจุดจบหรอ แต่เดี๋ยวมันก็จุดเริ่มเรื่องใหม่เข้ามาแหละ มันจบอย่างไรที่ทุกคนพอใจ ต่อให้จบเลยเดี๋ยวนั้น มันก็ต้องมีเรื่องใหม่ขึ้นมาไม่ช้าไม่นาน ประวัติศาสตร์มันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันควรจะจบแบบคนมีความสุขมากที่สุด แล้วก็เกิดประโยชน์กับคนหมู่มากมากที่สุดด้วยก็ดี

เห็นเคยวาดล้อเพจดังๆ คุณคิดอย่างไรกับเพจดังๆ คุณคิดว่าต้องเองเป็นหนึ่งในนั้นไหม?

ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าดูยอดไลค์แล้วมันก็ห่างกันมาก ต้องมองดูว่าแต่ละเพจอยากจะเล่นเนื้อหาอะไร แต่ต้องมีกรอบบ้างแหละ ที่จะไปวิจารณ์ใคร ก็ต้องดูด้วย ถ้าเราเช็คข้อมูลไม่ดี ถ้าเราเอาคนนี้มาอยู่ในเพจปุ๊บ ทุกคนเห็นก็ต้องมองว่าเอ้านี่เป็นคนเลว โดยที่เรื่องอาจจะพลิกก็ได้ บางทีก็ต้องระวัง เพราะว่าาสื่อมันไว คนตามเพจหลักแสนหลักล้านเยอะๆ เขาก็จะเสพพวกนี้ได้ไว ข่าวก็จะแพร่เร็ว มันก็อาจจะเกิดอาการ “เงิบ” แบบพอแอดมินเงิบปุ๊บ คนที่เขาเสียหายแล้ว เขาก็อุทธรณ์อะไรไม่ได้ อันนี้น่าจะเป็นจุดที่ต้องระวัง

สัมภาษณ์ครั้งนี้ คุณกลัวจะสูญเสียตัวตนของเพจไหม?

ไม่นะครับ จริงๆ ต่อไปผมอาจจะพิมพ์ลงในเพจก็ได้ คนก็อาจจะคิดว่ายังไงก็ไม่พิมพ์อะไรอย่างนี้ เพราะว่าเขามองเป็นอย่างนั้นไปแล้ว ซึ่งผมไม่เคยไปบอกอะไรเลย ผมไม่ได้มองว่าเป็น concept หรืออะไรเลย

ทางเพจต้องการโฆษณาอะไรหรือไม่ครับ?

สามารถสั่งได้ที่เพจ “ขายหมดทุกสิ่งอย่างบนโลกและจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล” นะครับ ทางหลังไมค์ ดูรายละเอียดได้ที่

อยากฝากอะไรถึงคนที่ติดตามเพจ “ไข่แมว” ไหมครับ?

จริงๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะสื่อสาร เพราะเหมือนผมวาดภาพแล้วเอามาแปะบนฝาผนัง แล้วคนก็เข้ามาเห็น แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับที่เข้ามาอ่าน แม้จะไม่มีอะไรให้อ่านก็ตาม บางอย่างถ้าไม่เห็นด้วยก็แย้งผมได้นะครับ

ภาพวาดพิเศษจากเพจ “ไข่แมว” สำหรับผู้อ่านประชาไท

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net