Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดระนองรับคำร้องทนายความผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ คดีลูกเรือประมงแรงงานข้ามชาติ 2 ลำ ร้องเรียนถูกบังคับใช้แรงงาน โดยศาลจังหวัดระนองมีคำสั่งโอนคดีไปพิจารณาที่ศาลอาญา แผนกคดีค้ามนุษย์

9 มิ.ย. 2559 มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 ศาลจังหวัดระนอง ได้กำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน  ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเรืองชัย ผิวงาม กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (อ่านรายละเอียด) ในวันเดียวกันนี้ทนายความผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้  ได้ยื่นคำร้องต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 26 [1] เพื่ออนุญาตให้มีการโอนคดีดังกล่าวไปอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์  โดยเห็นว่า

1. ในระหว่างการดำเนินคดีผู้เสียหายและพยานบางส่วนถูกข่มขู่ คุกคาม ทำให้เกิดความหวาดกลัว
2. จำเลยบางส่วนในคดีนี้ถูกดำเนินคดีค้ามนุษย์มาก่อน  จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีลดน้อยถอยลง  หรืออาจมีการขัดขวางการพิจารณาคดี
3. คดีเป็นที่น่าสนใจของประชาชนและมีองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและระหว่างประเทศติดตามสังเกตการณ์คดีมาโดยตลอด

หลังจากที่ทนายความโจทก์ร่วม  ได้ยื่นคำร้องแล้ว ทนายความฝ่ายจำเลยได้แถลงคัดค้าน และศาลได้ให้ทนายความฝ่ายจำเลยทำคำแถลงเพื่อคัดค้านภายใน 15 วัน และกำหนดนัดฟังคำสั่ง วันที่ 16 สิงหาคม 2559

สำหรับที่มาของคดี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 พนักงานเจ้าหน้าที่โดยการกำกับการของผู้บังคับการภูธรจังหวัดระนอง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเข้าตรวจเรือประมงและตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของลูกเรือประมงชาวกัมพูชาบนเรือประมงจำนวน 3 ลำ ที่ได้ออกไปทำการประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซียและได้เข้ามาจอดเทียบท่าเรือเอกชน พื้นที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเรือ 2 ใน 3 ลำ มีการบังคับใช้แรงงาน ได้แก่

1. เรือ ก.นาวามงคลชัย 8  ซึ่งศาลจังหวัดระนองได้รับฟ้องกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบรรจบ แก่นแก้ว และนายสมชาย เจตนาพรสำราญ เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 เป็นเลขคดีดำที่ คม.1/2559 และ คดีดำที่ คม 3/2559 ตามลำดับ ในข้อหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมีลูกเรือประมงชาวกัมพูชา จำนวน 4 คน เป็นผู้เสียหาย และ

2. เรือ ก.นาวามงคลชัย 1 ซึ่ง ศาลจังหวัดระนองได้รับฟ้องกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเรืองชัย ผิวงามและนายสมชาย เจตนาพรสำราญ เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 เป็นคดีดำ ที่ คม2/2559 และ คดีดำที่ คม4/2559  ซึ่งหลังจากที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจและช่วยเหลือลูกเรือประมงโดยดำเนินกระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในเรือประมง ก.นาวามงคลชัย 1 ได้จำนวน 11 คน และมีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้การดูแลผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทั้งหมด โดยก่อนฟ้องคดีนี้ พนักงานอัยการจังหวัดระนองได้ยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้า ซึ่งมีแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชาที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 11 ราย ขึ้นเบิกความเป็นพยาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net