รูปนี้ถ่ายเมื่อวาน (18 พ.ค.2559) หลังจาก กฤช มหาทน พ่อของหฤษฎ์ มหาทน วัย 64 ปี เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกล่าวหามาตรา 112 ของลูกชายต่อยูเอ็น หลังจากยื่นหนังสือเสร็จเขารีบขึ้นรถแท๊กซี่เพื่อมาให้ทันเวลาเยี่ยมลูกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ก่อนจะเข้าไปยื่นเอกสารเยี่ยม เขาแวะไหว้เจ้าพ่อเจตคุปต์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมรั้วเรือนจำ ด้วยหวังอิทธิฤทธิ์ของท่านจะดลบันดาลให้ลูกชายคนโตได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกมาสู้คดีนอกคุก นับเป็นกิจวัตรที่ทำทุกวัน ทุกครั้งที่มาเยี่ยม เขาว่าอย่างน้อยมันทำให้เขาสบายใจ

บ่ายแก่วันนี้ ท่ามกลางแดดร้อนระอุ ศาลทหารอนุญาตฝากขังผัด 2 หฤษฎ์และณัฏฐิกาคู่คดีของเขา และไม่อนุญาตให้ประกันตัวด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นคดีที่โทษสูง เกรงว่าจะหลบหนี และไปยุ่งกับพยานหลักฐาน จึงเป็นที่แน่นอนว่าอย่างน้อยๆ จนกว่าจะถึงการฝากขังผัดต่อไป อีก 12 วัน หฤษฎ์ยังต้องนอนคุกและกฤชก็จะยังไม่กลับบ้านที่ขอนแก่น

เขาเคยเป็นอดีตสมาชิก อบต.สองสมัย และปัจจุบันมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนใหญ่อาศัยเงินจากลูกชายที่ติดคุกคนนี้คอยส่งเสียทั้งเขาและน้องสาวที่เพิ่งสอบติดธรรมศาสตร์

กฤชพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ มาโดยตลอดหลังลูกชายถูกจับ เขาเคยพูดให้หลายคนฟังว่า จะกลับบ้านได้อย่างไรถ้าลูกชายไม่ได้กลับไปด้วย ทุกวันนี้เขาต้องอาศัยอยู่กับญาติเป็นบางวัน และหาที่นอนตามโรงแรมราคาถูกเป็นบางวันสลับกันไป และบางวันที่ไม่มีเงิน เขาอาศัยเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเช้า รอรถเมล์ แล้วเดินทางไปเยี่ยมลูกที่คุก

สำหรับคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวของศาลทหารในวันนี้ เขาบอกว่า ทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งและมองโลกในแง่ดีว่า "คดีอย่างปอน มันเป็นคดีการเมือง ยังดีที่มันยังมีเพื่อนมาหา มาเยี่ยม มันไม่เหมือนคดีชกชิงวิ่งราว ฆ่าคนตาย อย่างนั้นคนเขาไม่อยากยุ่งด้วย แต่ไอ้นี่ เพื่อนมันยังมี"

อนึ่ง หฤษฎ์ถูกเจ้าหน้าที่ทหารบุกจับกุมพร้อมกับบุคคลอื่นอีก 7 คนรวมเป็น 8 คนเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา พวกเขาถูกกล่าวหาว่าถูกว่าจ้างให้มาเป็นแอดมินและจัดการเนื้อหาในเพจเฟซบุ๊กเสียดสีการเมือง 'เรารัก พล.อ.ประยุทธ์' ทั้ง 8 คนถูกนำมาแถลงข่าวในวันที่ 28 เม.ย.และแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 ปลุกระดมปลุกปั่นให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1),(2),(3) และถูกนำตัวไปฝากขังยังศาลทหาร ศาลอนุมัติและส่งตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ วันต่อมา 29 เม.ย. มีรายงานข่าวว่าศาลทหารได้อนุมัติหมายจับอีกอันหนึ่งเพิ่มเติมกับหฤษฎ์และณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งในบรรดา 8 คนในข้อหาความผิดตามมาตรา 112 โดยอ้างเหตุกรณีการพูดคุยส่วนตัวกันในกล่องข้อความ (แชต) ในเฟซบุ๊ก หฤษฎ์ตั้งข้อสังเกตว่าการได้หลักฐานของเจ้าหน้าที่อาจกระทำไปโดยมิชอบเนื่องจากไม่ได้ให้รหัสเฟซบุ๊กแก่เจ้าหน้าที่ จากนั้นเกิดกระแสไม่ไว้วางใจบริการเฟซบุ๊กในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากนั้นตำรวจได้ออกมาชี้แจงว่าการหลักฐานเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าได้มาโดยวิธีใด

หลังจากนั้นมีการยื่นประกันตัวทั้ง 8 คนอีกสองครั้ง และในท้ายที่สุดในการฝากขังผัดที่ 2 เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลทหารอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 8 รายโดยวางหลักทรัพย์คนละ 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปล่อยตัวทั้ง 8 คน ตำรวจก็ได้เข้าอายัดตัว หฤษฎ์และณัฏฐิกาไปควบคุมตัวต่อในข้อหามาตรา 112 โดยทันที