ดอน และกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ ให้สัมภาษณ์สื่อ หลังการพูดคุยระหว่างกัน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.59 (ที่มาภาพ เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ)
16 พ.ค.2559 จากกรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา กลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหลังจากหารือเสร็จได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อ ซึ่ง เดวีส์ กล่าวว่าสหรัฐห่วงกังวลอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น และย้ำจุดยืนที่ได้พูดไปโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแล้วว่าสหรัฐห่วงกังวลกับการจับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเห็นว่าควรต้องมีการเปิดพื้นที่ทางการเมือง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นขัดต่อพันธกรณีของไทยตามหลักสากล ซึ่งขัดกับการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศไทยก่อนหน้านี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับท่าทีของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ดังกล่าว จนวันนี้ (16 พ.ค.59) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ดอน กล่าวถึงกรณี เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยอ่านแถลงการณ์ติงประเทศไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนกับมารดาผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นผู้ต้องหาตามมาตรา 112 ว่าการที่ เดวีส์ กระทำเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้หยิบยกมาหารือในที่ประชุมมาก่อน จึงจำเป็นต้องชี้แจงว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ประณามไทยในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนต่อการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
“ส่วนจะกระทบต่อความสัมพันธ์หรือไม่ มองว่าไทยกับสหรัฐฯมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน คงไม่ปล่อยให้ประเด็นดังกล่าวเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีสั่งสมกันมาเป็นร้อยปี แต่ถ้าจะให้แตกหักใช้เวลาเพียงนิดเดียว ซึ่งเราไม่ต้องการให้มันหายไป ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ผมมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดที่คนไทยจะได้สะท้อนความรู้สึกให้ต่างชาติรับรู้ ในส่วนทีเกี่ยวกับมาตรา 112 เราได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่อง และทุกประเทศล้วนมีกฎหมายภายในที่ให้ความคุ้มครองผู้นำของประเทศ อย่างล่าสุดที่มีเด็กหนุ่มประณามประธานาธิบดีของเขาก็ถูกลงโทษเช่นกัน ใครที่มาอยู่ประเทศเราจะต้องศึกษาคุณค่าและความหมายของประเทศ ซึ่งปัจจุบันเชื่อว่าน่าจะเข้าใจกันดีแล้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
ดอน กล่าวว่า ทูตสหรัฐฯ คนนี้อาจจะเพิ่งมารับหน้าที่ ไม่เคยเข้าเฝ้าและไม่รู้ประวัติศาสตร์ประเทศไทยดีพอ ประกอบกับหากได้รับรู้ข้อมูลจากคนไทยที่เข้าใจเรื่องนี้ดีโดยไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้เข้าใจประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าไปฟังคนผิด ไปคุยกับนักการเมืองก็อาจเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ผิดไปได้ จึงอยากให้ทูตสหรัฐฯได้ลองพูดคุยกับทูตไทยคนก่อน ๆ ในสหรัฐฯ หรือทูตสหรัฐฯคนเก่าที่มีประสบการณ์ในไทย เพื่อที่จะได้รู้คุณค่าและความเป็นคนไทย ไม่ว่าใครมาก็ต้องรักประเทศไทย และเมื่อมาอยู่เมืองไทยก็ต้องช่วยส่งเสริมประเทศไทยด้วย
ส่วนที่ทูตสหรัฐฯถูกกระแสคนไทยต่อต้าน ดอน กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายยุติเรื่องดังกล่าวและไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลาย เพราะประเทศต้องก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป ถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนของทุกฝ่ายที่เวลาพูดคุยกันจะต้องใช้ความเข้าใจกันให้มากขึ้น ส่วนกระแสให้กำลังใจตนก็รับรู้และยืนยันจะปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศไทย แต่ตนมีภารกิจที่ต้องขับเคลื่อนประเทศต่อไปเรื่องดังกล่าว อยากขอให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามไป
เมื่อถามถึงกรณีที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุให้ทางการไทยทำหนังสือคุ้มครองทูตสหรัฐฯ ที่ให้คนที่ต่อว่าทูตระวังอาจทำผิดกฎหมายได้ ดอน กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครออกมาพูด แต่บอกได้เลยว่าคนพูดไม่รู้เรื่องอะไร
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)