เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกาน ฟ้องร้องตลกชาวเยอรมัน ยาน บูห์เมอมานน์ จากกรณีที่เขาอ่านบทกวีเสียดสีเออร์โดกาน แต่เนื่องจากบูห์เมอมานน์เป็นชาวเยอรมัน การฟ้องร้องของเออร์โดกานจึงต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเยอรมนีซึ่งระบุไว้ในวรรคหนึ่งของกฎหมายอาญาเยอรมนีมาตราที่ 103 โดยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี แองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีก็ประกาศอนุญาตให้มีการฟ้องร้องบูห์เมอมานน์ได้
อย่างไรก็ตามแมร์เคิลยืนยันว่าการตัดสินใจของรัฐบาลให้อนุญาตฟ้องร้องในเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการตัดสินว่าบูห์เมอมานน์มีความผิดหรือไม่ แต่เป็นเพียงแค่การ "ย้ำจุดยืนด้านความเป็นอิสระของฝายตุลาการ" เพราะคนที่มีหน้าที่ตัดสินในเรืองนี้คือศาลและอัยการไม่ใช่รัฐบาล
ในเยอรมนีมีวรรคหนึ่งของกฎหมายอาญามาตรา 103 ระบุถึงการหมิ่นประมาทองค์กรหรือตัวแทนรัฐต่างประเทศซึ่งมีการถูกนำมาอ้างใช้น้อยมากจนถึงขั้นทนายและนักการเมืองผู้มีประสบการณ์ช่ำชองหลายคนยังไม่เคยได้ยินว่ามีวรรคนี้ในกฎหมายมาก่อนจนกระทั่งถึงเมื่อเกิดกรณีในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้วรรคดังกล่าวของมาตรา 103 ยังมีมาตั้งแต่ยุคสมัยเก่าแก่ในช่วงที่ประเทศยุโรปที่ติดต่อกันทางการทูตหลายประเทศยังคงมีระบอบกษัตริย์ที่อ่อนไหวต่อการถูกหมิ่นในรูปแบบของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จนกระทั่งในปี 2414 จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนีก็เปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้เป็นกฎหมายห้ามหมิ่นประมุขของรัฐใดๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ โดยนอกจากในเยอรมนีแล้วยังมีประเทศอิตาลี, โปแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์ และสเปน ที่ยังคงมีกฎหมายเช่นนี้อยู่
กฎหมายดังกล่าวนี้ต้องอาศัยทั้งการยื่นคำร้องจากกลุ่มที่อ้างว่าถูกหมิ่นและการอนุญาตให้มีการดำเนินคดีจากรัฐบาลประเทศของผู้ถูกฟ้อง ซึ่งแมร์เคิลเปิดเผยว่าสำหรับประเด็นของบูห์เมอมานน์ มีการถกเถียงและลงความเห็นแตกต่างกันในหมู่กระทรวงต่างๆ ของรัฐบาลเยอรมนี ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกิจการภายใน กระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี
แม้ว่าก่อนหน้านี้นายกฯ เยอรมนีจะเคยแสดงความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องที่ทางการตุรกีปราบปรามนักข่าวและเริ่มจำกัดสิทธิการประท้วง แต่เยอรมนีก็ยังคงเน้นย้ำเรื่องความแน่นแฟ้นทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศ โดยที่ทั้งเยอรมนีและตุรกีเป็นประเทศความร่วมมือสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านวิกฤตผู้ลี้ภัยและการตัดสินใจของเยอรมนีก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการที่ตุรกีพยายามเข้าร่วมสมาชิกภาพสหภาพยุโรปด้วย
การแสดงตลกที่ถูกฟ้องร้องในกรณีนี้เป็นรายงานโทรทัศน์เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ชื่อรายการ Neo Magazin Royale ทางช่องสถานี ZDF ในรายการพิธีกรคือบูห์เมอมานน์ ทำการอ่านบทกวีกล่าวหาว่าผู้นำตุรกีทำการกดขี่ชนกลุ่มน้อย ปฏิบัติไม่ดีต่อชาวเคิร์ดและผู้นับถือคริสต์ รวมถึงดูภาพอนาจารของเด็ก แต่บทกวีที่ดูเหมือนจะเป็นแค่การท้าทายจากบูห์เมอมานน์ก็กลายเป็นประเด็นด้านการทูตที่มีการปะทะกันระหว่างประเด็นเสรีภาพสื่อที่ชาติยุโรปตะวันตกให้การสนับสนุนกับทางการตุรกีที่ถูกมองว่าพยายามทำให้ฝ่ายต่อต้านเงียบเสียง
ภายใต้กฎหมายอาญาของเยอรมนี ถ้าหากบูห์เมอมานน์ถูกตัดสินให้มีความผิดเขาจะถูกลงโทษจำคุกสุงสุด 1 ปี
ในช่วงสมัยของเออร์โดกานมีการกดดันและฟ้องร้องดำเนินคดีสื่อและผู้วิพากษ์วิจารณ์เขาจำนวนมาก โดยที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมตุรกีเปิดเผยว่าพนักงานอัยการของตุรกีมีการดำเนินคดีกับคนที่วิพากษ์วิจารณ์เออร์โดกานเกือบ 2,000 คดีแล้วนับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2557
เรียบเรียงจาก
Turkey's Erdogan files case against German comedian, Aljazeera, 13-04-2016
Angela Merkel agrees to prosecution of comedian over Erdoğan poem, The Guardian, 15-04-2016
http://www.theguardian.com/world/2016/apr/15/angela-merkel-agrees-prosecution-comedian-erdogan-poem
Obscure German law gives Angela Merkel a diplomatic headache, The Guardian, 14-04-2016
http://www.theguardian.com/world/2016/apr/14/obscure-german-law-angela-merkel-recep-tayyip-erdogan