14 เม.ย. 2559 - เยาวชนในขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หรือ NDM จากหลายสถาบันอุดมศึกษา ได้เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อปี 2558 ภายใต้แนวทาง "ประชาธิปไตย-สิทธิมนุษยชน-ความยุติธรรม-การมีส่วนร่วม-สันติวิธี"
"พวกเราเริ่มรู้จักกันมาก่อน ตั้งแต่เคลื่อนไหวเรื่องต้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ หลังรัฐประหารแต่ละคนที่ทำงานแต่ละพื้นที่รู้สึกเหมือนกันว่า ถูกคุกคาม ข่มขู่มาโดยตลอด ชาวบ้านก็โดนฟ้อง จึงมีข้อเสนอว่าสุดท้ายเราต้องสู้ร่วมกัน" อภิสิทธิ์์ ทรัพย์นภาพันธ์ สมาชิกกลุ่มกล่าวถึงที่มาของพวกเขา
"การรัฐประหารครั้งนี้ เป็นการรัฐประหารทรัพยากรด้วย เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางฟังชุมชนแน่นอน การเคลื่อนไหวของเราที่ออกไป เพราะมันเป็นเสียงที่ชาวบ้านพูดไม่ได้ จากแต่ก่อนที่ชาวบ้านพูดกับสังคมได้ เดินขบวนได้ เรียกร้องได้ เคลื่อนไหวได้ คัดค้านได้ ยื้อได้ แต่เดี๋ยวนี้ทำอะไรไม่ได้อีกเลย" จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มกล่าวถึงเหตุผลการเคลื่อนไหว
แต่หลังการเคลื่อนไหว พวกเขาถูกดำเนินคดีในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ทั้งนี้หลังรัฐประหารในเดือนพฤษภาคมปี 2557 ความผิดฐาน "ยุยงปลุกปั่น" ถูกใช้มากขึ้น โดยผู้ที่ถูกตั้งข้อหามักเป็นผู้ทำกิจกรรม หรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในทางตรงข้ามกับรัฐบาลหรือ คสช. โดยจากการเก็บข้อมูลของ iLaw นับตั้งแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 มีผู้ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 116 อย่างน้อย 37 คน ในขณะที่ระหว่างปี พ.ศ. 2553 ถึงก่อนรัฐประหาร มีผู้ถูกดำเนินคดีประมาณ 5 คน
วีดีโอนี้ เป็นผลงานของผู้เข้าร่วมโครงการ "อาสาสมัครเยาวชนผลิตสื่อวิดีโอ ส่งเสริมเสรีภาพออนไลน์" โดยประชาไท ทำงานร่วมกับ ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ โดย ไอลอว์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับประเด็นสิทธิเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต และสื่อสารเรื่องเสรีภาพการแสดงออกในสังคมไทย