8 เม.ย. 2559 รายงานข่าวจาก พ.อ.ปราโมทย์  แสงลอย หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แจ้งว่า วันนี้ (8 เม.ย.59) เวลา 09.00 น. ณ ลานวัฒนธรรม ที่ทำการ อ.เทพา จ.สงขลา จัดกิจกรรมสนทนาพาที “โรงไฟฟ้ามา เทพาพัฒนอย่างไร” เพื่อร่วมระดมความคิด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชนใน อ.เทพา เพื่อการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในอนาคต โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้าร่วมให้ข้อมูล มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 500 คน

 

ดร.พณวรรธน์  พงศ์ประยูร ประธานกลุ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน กล่าวว่า กิจกรรมสนทนาพาที “โรงไฟฟ้ามา เทพาพัฒนาอย่างไร” จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนจาก 7 ตำบล ในพื้นที่ อ.เทพา ได้ร่วมนำเสนอแนวทางการพัฒนาพื้นที่ในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการสร้างอาชีพ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การท่องเที่ยวในพื้นที่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้เชิญผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และผู้เชี่ยวชาญด้านที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ สนั่น ชายะพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วน ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา, บาบอยี  มานิตย์ มุณี ผู้นำชุมชนอิสลาม อ.เทพา, ดร.อุริช  อัชชโคสิต นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม, สุรพันธ์  วงษ์โอภาสี ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน, สัมพันธ์  ละอองจิตร์ ผู้แทนภาคประชาชน, เฉลิมพล  ทิพย์มณี นายกเทศมนตรี ต.เทพา และมะฆอซาฟี มะดอหะ ผู้แทนคนรุ่นใหม่เทพา

 

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า บรรยากาศในภาพรวมของการเปิดกิจกรรมสนทนาพาที ในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่เห็นด้วย และเข้าใจ ในเรื่องของโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ สำหรับพี่น้องประชาชนชาวเทพา และพื้นที่ใกล้เคียง เพราะทุกคนคาดหวังว่าในอนาคตโรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน  ส่วนในภาพรวมจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ  เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวของภาคใต้ด้วย

 

ผู้สื่อข่าว 'ประชาไท' รายงานเพิ่มเติมว่า กรณีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยังมีประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวด้วย โดยเมื่อวันที่16 ก.พ. ที่ผ่านมา ตัวแทนประชาชนจังหวัดสงขลา ปัตตานี ร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้หยุดโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพ โดยก่อนหน้านั้นได้เดินทางไปยื่นเรื่องกับรัฐสภาและสำนักงานนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยระบุว่าจะเป็นต้นกำเนิดมลพิษขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ทะเลจะถูกทำลาย ประมงพื้นบ้านอาจสาบสูญ พร้อมทั้งสร้างแตกแยกในชุมชน  (อ่านรายละเอียด)