Skip to main content
sharethis

กรณีหนังสือพิมพ์ซุดดอยต์เซอ ไซตุง และสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (The International Consortium of Investigative Journalists หรือ ICIJ) เปิดเอกสารลับของบริษัทกฎหมายปานามา 'มอสแซค ฟอนเซกา' (Mossack Fonseca) วานนี้ (4 เม.ย.) โดยเอกสารเหล่านี้ได้บอกเล่าวิธีการที่นักการเมืองและอดีตผู้นำประเทศใช้ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้ในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย มีการแสดงตัวเลขผู้ใช้บริการ 21 ราย  


ภาพจาก https://briankilmartin.cartodb.com/viz/54ddb5c0-f80e-11e5-9a9c-0e5db1731f59/embed_map

 

5 เม.ย. 2559 สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า มอสแซก ฟอนเซก้าสาขาประเทศไทย มีลูกค้าผู้เข้าใช้บริการในประเทศไทยมีทั้งหมด 21 ราย เป็นทั้งบุคคลและองค์กรสัญชาติไทยและต่างประเทศ โดยทั้ง 21 รายใช้บริการจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตไปแล้ว 963 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้กระจายไปตามที่ต่างๆซึ่งเป็นสวรรค์ปลอดภาษีเช่น หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หรือเคย์แมน เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัททั้ง 963 บริษัท มีผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นทั้งในรูปบุคคลและบริษัทรวม 757 ราย และผู้รับผลประโยชน์ 40 ราย

สำนักข่าวอิศรา ระบุด้วยว่า พบบุคคลหรือองค์กรสัญชาติไทย ชื่อเจริญ - คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ใช้บริการจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทนอกอาณาเขตที่บริติชเวอร์จินจำนวนหนึ่ง ผ่านบริการของมอสแซก ฟอนเซก้า สาขาบริติชเวอร์จิน ในขณะที่สมาชิกตระกูลจิราธิวัฒน์ ใช้บริการจดทะเบียนสาขาประเทศไทย โดยถือครองบริษัทนอกอาณาเขตในที่ต่างๆ เช่นที่เนวาดา โดยสำนักข่าวอิศราซึ่งร่วมมือกับสมาชิก ICIJ ประเทศไทย จะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าบุคคลและกลุ่มธุรกิจทั้งสองกลุ่มนี้ ได้ใช้บริษัทนอกอาณาเขตของตนในทางที่ขัดแย้งต่อกฎหมายแต่ประการใด

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เพื่อให้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งเหมือนกันว่า ไม่มีใครทราบข้อมูลเรื่องนี้  และขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะเป็นข้อมูลที่ลึกมาก ถ้าได้ข้อมูลอะไรแล้วจะติดต่อกลับมา


ปปง.จ่อแถลงผลสอบปมเอกสารปานามา 8 เม.ย.นี้
ขณะที่ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวเปิดเผยความคืบหน้าดังกล่าว กล่าวว่า กำลังเร่งดำเนินการประสานงานไปยังแหล่งที่มาของข้อมูลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะ ปปง.มีการประสานงานและบูรณาการข้อมูลกับเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินข้ามชาติทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ หากประเทศใดพบข้อมูลการฟอกเงินของกลุ่มบุคคลใดเข้าข่ายฟอกเงินจะมีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมายังประเทศที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นๆ หรือรายงานข้อมูลให้รับทราบ โดยจะแถลงข่าวความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวในวันที่ 8 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 สำนักงาน ปปง.


รมว.ยธ. ชี้ถ้าพบทำผิดจริงเตรียมใช้กม.ฟอกเงินจัดการ
นอกจากนี้ เดลินิวส์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเอกสารลับปานามาและรายชื่อคนไทย 21 ราย ว่า กำลังให้สอบสวนอยู่ เพราะเป็นหลักฐานที่ไม่ได้เป็นทางการแต่มาจากสื่อมวลชน ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าดีที่มีคนชี้เป้าให้ จะได้จับติดคุกกันมากๆ และจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องมีการสรุปข้อเท็จจริงก่อน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รัฐบาลทำงาน 2 อย่าง คือเปิดเผยเข้ากระบวนการได้เลยในกรณีที่เป็นหนังสือราชการ ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่เรื่องดังกล่าวเผยแพร่มาจากหนังสือพิมพ์และมีหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง จึงต้องดูแนวทางของต่างประเทศว่าทำอย่างไร ซึ่งมีคณะทำงานอยู่โดยการประสานงานของฝ่ายยุติธรรมที่เชื่อมโยงกันหมดในรัฐบาลนี้
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า กำลังตรวจสอบว่า 21 รายชื่อคนไทยที่เชื่อมโยงมีใครบ้าง และต้องทำการชี้แจงให้สังคมโลกรับทราบ แต่ต้องมีข้อมูลก่อน และดูว่าคนที่มีชื่อจะแก้ตัวอย่างไร ทั้งนี้เมื่อเห็นรายชื่อก็ไม่ได้ตกใจเพราะไม่มีรายชื่อของตน เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีการเปิดเผยทางรัฐบาลมีข้อมูลอยู่ก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนที่ดูแลเรื่องนี้อาจไม่มี แต่ไม่ได้ผ่านตนเพราะเป็นเรื่องของการเงิน

ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าต้องเข้าใจว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากสื่อ ไม่ใช่ข้อมูลทางการ ถ้าข้าราชการจะนำมาตรวจสอบต้องเป็นข้อมูลทางราชการ แต่หากจะดำเนินการตรวจสอบ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีกฎหมายที่ดำเนินการได้ ดังนั้นขั้นตอนต่อไปหากพบว่าเรื่องใดไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องใช้กฎหมายการฟอกเงินเข้าไปจัดการ ตนได้เห็นรายชื่อแล้ว แต่ไม่ขอพูดว่าใครบ้าง ต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกันเพราะข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข่าวสาร ไม่ใช่ข้อมูลข่าวกรอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net