Skip to main content
sharethis
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ร่วมกินข้าวเที่ยงและวงเสวนาแลกเปลี่ยน “ผลกระทบถ่านหินและประสบการณ์การต่อสู้ของชาวบ้าน” หลังเปลี่ยนสถานที่จัดงานถึงสามครั้ง เนื่องจากทหารในพื้นที่ไม่อนุญาตจัดงานผ้าป่าระดมทุน และมีการพยายามคุกคามแกนนำของเครือข่าย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
26 มี.ค.2559 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์กว่า 500 คน ในเขตอำเภอบำเหน็จณรงค์และอำเภอจัตุรัส ได้เดินทางกันมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก และร่วมกินข้าวเที่ยงและวงเสวนาแลกเปลี่ยน “ผลกระทบถ่านหินและประสบการณ์การต่อสู้ของชาวบ้าน”  โดยกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดเมืองเลย และชาวบ้านจากอำเภอคอนสาร จ.ชัยภูมิ บริเวณที่ดินของชาวบ้านในเครือข่ายแห่งหนึ่ง หลังจากที่ต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการจัดงานมากถึงสามครั้งด้วยกัน เนื่องจากทหารในพื้นที่ไม่อนุญาตให้จัดผ้าป่าระดมทุนต่อสู้และมีการพยายามคุกคามแกนนำของเครือข่ายที่ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการจัดงานจนต้องย้ายสถานที่อีกแห่ง และมีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอใช้เครื่องเสียงในการจัดงานในครั้งนี้
 
นายแสวง พรีพรม อดีตผู้ใหญ่บ้านคำปิงพัฒนา ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ  กล่าวว่า   มีความกังวลมากเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและการแย่งชิงน้ำ ตนเองเคยไปแม่เมาะ เห็นสภาพหมู่บ้านแล้วน่ากลัวมาก ชาวบ้านเป็นโรงมะเร็งตาย  คนที่แม่เมาะต้องซื้อน้ำกิน  ถ้าผมต้องซื้อน้ำกินคงตายแน่ๆ อีกประเด็นหนึ่งคือ การแย่งชิงน้ำ ซึ่งแถวนี้มีเขื่อนลำคันฉูที่ส่งน้ำให้ชาวบ้านมีปริมาณน้ำเพียง 42.6 ลบ.เมตร ในขณะที่พื้นที่เกษตรกรรมของทั้งอำเภอมีมากถึง 90,000 ไร่ แม้บริษัทจะบอกว่า จะไม่แย่งน้ำชาวบ้านหรอก แต่ไม่เชื่อ เพราะปริมาณน้ำที่เรามีเหมือนน้ำในแก้วเพียงแก้วเดียว 42.6 ล้านลบ.เมตร ถ้าโรงไฟฟ้าต้องการน้ำ เขาก็คงไปเจรจากับหน่วยงานรัฐและรัฐคงปล่อยน้ำจากเขื่อนไปให้โรงงานก่อน ส่วนพวกเราชาวนาต้องรอไปก่อน ใช่! ว่าบริษัทไม่ได้แย่งน้ำ แต่คุณแบ่งน้ำจากแก้วเดียวของเราไปก่อน ก่อนที่จะส่งให้ชาวบ้าน นั่นเท่ากับแย่งน้ำเรา  นี่ยังไม่นับปริมาณน้ำที่ต้องเก็บไว้ในเขื่อนเพื่อรักษาสภาพเขื่อนอีก 9 ล้านลบ.เมตร นี่เป็นประเด็นที่ผมกังวลมากที่สุดต่อสถานการณ์ของบ้านเรา 
 
แม่ป๊อบ พรทิพย์ หงษ์ชัย ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดเมืองเลย 6 หมู่บ้าน อ.วังสะพุง จ.เลย กล่าวว่า ยินดีและดีใจที่ได้มาเจอพี่น้องที่บำเหน็จณรงค์ เห็นพี่น้องมีที่ดินและความอุดมสมบูรณ์มาก อยากให้รักษาบ้านเราเท่าชีวิต ที่จริงเป็นคนชัยภูมิ แต่ได้ไปอยู่เมืองเลย และไปเจอผลกระทบเหมืองทองคำที่เมืองเลย  ซึ่งเหมืองเกิดมาก่อนแล้ว ที่นี่ยังไม่เกิด อยากให้รักษาต่อสู้ไว้ไม่ให้เกิด เคยไปดูโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ผลกระทบหนักมากถึง 100 กิโลเมตร น้ำ อาหารกินไม่ได้   เช่นเดียวกับที่เมืองเลยเดิมเคยเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์มาก  หาอาหารได้จากธรรมชาติ หาได้ทั้งในภูเขาและร่องเขา แต่ตอนนี้เราได้รับผลกระทบจากโลหะหนัก ชาวบ้านได้รับสารหนักในร่างกายและตายเยอะมากที่สุดคือ มะเร็ง หน่วยงานรัฐประกาศห้ามกินปูปลาอาหารในลำน้ำเพราะมีสารโลหะหนัก ครั้งแรกที่บริษัทมาบอกก็บอกว่าจะสร้างโรงเรียน สร้างตลาดให้ คิดว่าหมู่บ้านจะเจริญ ลูกหลานทำงานในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงยอม เมื่อเหมืองเปิดทำการ มีเสียงระเบิดวันละ 2 ครั้ง  ก้อนหินร่วงลงมาในบ้าน เสียงการผลิตแร่ทั้งวันทั้งคืน  ชาวบ้านทนไม่ไหวและสู้มาเกือบ 10 ปีแล้ว เราต้องซื้อน้ำกิน น้ำใช้มาตั้งแต่ปี 2552 มีคดีมากมาย เราสู้ถึงชั้นศาล แต่เราก็สู้ ในที่สุดบริษัทก็ถอนฟ้อง   เพราะอะไร! เราสู้บนความถูกต้อง   เรามีทุนความเข้มแข็ง เราเจอผลกระทบแล้ว  ที่นี่โรงไฟฟ้ายังไม่ได้สร้าง เราควรจะต้องสู้ เรามีสิทธิในการแสดงออกทางกฎหมาย เราไม่ได้มีอาวุธ  วันนี้มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความสงบเรียบร้อยให้พวกเรา  ถ้าที่เมืองเลย เราเจอแต่ตำรวจพร้อมชุดปราบจลาจล เจอคดี เจอการคุกคามจากบริษัท มีการส่งมือปืน ถูกทำร้ายร่างกายจากการที่เราต่อสู้คัดค้าน นี่เป็นประสบการณ์ สิทธิของเราคือ คนที่อยู่ที่นี่ เป็นคนดั้งเดิม เรามีสิทธิชุมชนดั้งเดิมที่จะรักษาบ้านเกิดให้กับลูกหลานของเรา  อยากให้กำลังใจพี่น้อง  เราต้องอดทนให้มาก พี่น้องจะต้องเจออะไรมากกว่านี้
 
อรนุช ผลภิญโญ กลุ่มรักษ์คอนสาร  อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ในพื้นที่มีปัญหาเรื่องโรงงานยางพาราในพื้นที่  ที่คอนสารไม่ได้ปลูกยางพาราเราปลูกข้าวกิน ที่คอนสารมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำผุดหลายแห่ง แต่รัฐและทุนกำลังหลอกชาวบ้าน พยายามให้ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ แต่พยายามบอกว่าโรงงานดีอย่างไร  กรณีโรงงานยางพารา เจ้าของโรงงานบอกว่า เศรษฐกิจคอนสารจะดี คนจะมีงานน้ำ แต่เรายังไม่เคยเห็นเลยว่า พื้นที่โรงงานที่ไหนทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดีจริงๆ ยิ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้ว ผลกระทบยิ่งจะร้ายแรง  ตอนนี้ที่คอนสารเรามีหลักคิดว่า ถ้ายังไม่สร้าง เราก็ไม่ควรให้มันสร้าง อันนี้เป็นหลักคิดสำคัญ ที่นี่น่าสนใจมากที่เห็นผู้นำหมู่บ้านเข้มแข็งมากและออกมากับชาวบ้านจริงๆ  แต่ก็ยังสงสัยว่า ทำไมรัฐจะต้องห้ามทำบุญ ต่อไปเขาคงห้ามเราหายใจ แต่อยากให้พี่น้องรู้ว่า สิ่งที่รัฐห้ามเรานี้คือ รัฐกำลังอ่อนแอ  เราจึงต้องเข้มแข็งไว้ และสู้ด้วยความจริง การต่อสู้ของพี่น้องนั้นเป็นการต่อสู้ระยะยาวแน่นอน อยากให้กำลังใจพี่น้องต่อสู้ต่อไป 
 
ช่วงเวลา 10.30 น. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ได้พาตัวแทนเครือข่ายชาวบ้านและนักวิชาการ ไปลงพื้นที่บึงทะเลสีดอ  หนองน้ำธรรมชาติ เพื่อดูสภาพพื้นที่ที่ตั้งของโรงไฟฟ้า บึงน้ำธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ขนาด 300 ไร่ เป็นแหล่งน้ำและแหล่งหาปลาของชาวบ้าน โดยบึงทะเลสีดอ ทางโรงไฟฟ้าถ่านหินจะขอใช้น้ำและใช้ในกิจการเหมืองแร่โปรแตช  ซึ่งในบริเวณนั้นมีชาวบ้านที่กำลังต้มเกลือและจับปลาในบึงทะเลสีดอ เป็นจำนวนมาก   ต่อมาเวลา 11.00 น. ชาวบ้านบางส่วนได้เดินทางไปถวายเพลที่วัดและมีการกรวดน้ำคว่ำขันให้เจ้ากรรมนายเวร และมีการรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน มีชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่นำอาหารมาตั้งเป็นโรงทาน  และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างคึกคักเกี่ยวกับกรณีที่ทหารห้ามจัดผ้าป่ากลุ่มชาวบ้านในครั้งนี้  และยังการระดมทุนของเครือข่ายได้เบื้องต้นมากถึง 50,000 บาท แล้ว ซึ่งเดิมชาวบ้านตั้งใจจะทำการระดมทุนจากการทอดผ้าป่า แต่ทหารได้ประกาศไม่ให้จัดดังที่เป็นข่าวไป ในบริเวณงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากอำเภอบำเหน็จณรงค์และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาสังเกตการณ์หลายนาย 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net