จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายได้บุกเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และใช้เป็นสถานที่โจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4816 เหตุเกิดเมื่อ 13 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งการพูดถึงมาตราการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเฉพาะการพูดคุยสันติสุข นั้น
พล.อ.อักษรา เดินหน้าคุยสันติสุขต่อ ยื่นข้อเสนอขอพื้นที่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ประชาชาติธุรกิจ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข โดย ตอนหนึ่ง พล.อ.อักษรา ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกระบวนการพูดคุยสันติสุข ว่า ตนมองว่าคุยดีกว่าไม่คุย เขาต้องการอะไรก็บอกเรา เมื่อก่อนเกิดการวางระเบิด เขาก็ไม่ได้มาบอกเราว่า เขาต้องการอะไร คราวนี้สามารถถามได้ ตอนนี้เขาออกมาแล้ว แล้วที่มันล้มเหลว หัวหน้าทำคนเดียวเสียที่ไหน แล้ว สมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ล่ะ แม่ทัพภาค 4 ล่ะ กองทัพบกล่ะ ดีหมดเลยเหรอ
สำหรับความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.อักษรา กล่าวว่า การพูดคุยเพื่อสันติสุขถือเป็น 1 ใน 7 กลุ่มงาน ในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง การพูดคุยเพื่อสันติสุข จะทำให้อีก 6 กลุ่มงานที่ทำก่อนหน้านี้มีความชัดเจนขึ้น โดยไปถามผู้ก่อความไม่สงบว่า อยากจะเอายังไง ส่วนข้อเสนอจากผู้ก่อความไม่สงบ 1-2 ข้อก่อนหน้าที่คณะพูดคุยจะเดินทางไปพูดคุยครั้งที่ 5 นั้น เป็นข้อเสนอทางธุรการเท่านั้น เพราะผู้ก่อความไม่สงบไม่มีอะไรเลย เขาก็เลยอยากได้กรอบกติกาบ้าง เกี่ยวกับการเดินทาง ห้องประชุมใครจัด อาหารใครเลี้ยง ก็ดูแลกันไป ทั้งเราและผู้อำนวยความสะดวก (มาเลเซีย) เป็นเพียงข้อตกลงทางธุรการเท่านั้น ไม่ใช่ข้อเสนอให้หยุดก่อเหตุในพื้นที่ ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องของ ความมั่นคงระหว่างประเทศ เพราะมันเป็นเรื่องความมั่นคงภายในของเรา
ต่อคำถามถึงข้อเสนอของฝ่ายรัฐต่อการพูดคุยครั้งต่อไปเพื่อให้ได้เป็นข้อตกลงนั้น พล.อ.อักษรา กล่าวว่า ต้องการได้พื้นที่ปลอดภัย 3 เดือน 6 เดือน ก็ว่ากันไป ถ้าเลือกเองมันก็ต้องเป็นพื้นที่ที่มีเหตุ แต่ถ้ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเลือก เขาคงต้องเลือกพื้นที่ที่เขาไม่ทำอยู่แล้ว ความรับผิดชอบของเรา คือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องปลอดภัยทั้ง 38 อำเภอ มันเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านเลขาฯ ศอ.บต. ที่ต้องดูแลให้ปลอดภัยทั้ง 38 อำเภอ ข้อเสนอของเราไม่ใช่คณะพูดคุยคิด แต่ได้มาจากประชาชนในพื้นที่ที่เขาต้องการ ไปถามฝั่งโน้นว่า
พล.อ.อักษรา กล่าวต่อว่า ประชาชนเขาต้องการพื้นที่ปลอดภัย เขาต้องการพัฒนา แล้วคุณต้องการพัฒนาด้วยไหม ที่ประชาชนต้องการกับที่คุณต้องการเหมือนกันไหม คุณก็เสนอมาสิ เราจะได้ไปถามประชาชน เพราะเราถามมาแล้วว่าเขาต้องการแบบไหน กลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมไหม เพราะบางคนก็มีหมายจับ มีคดีอยู่ เราก็จะดูแลตรงนั้นให้ จากหนักเป็นเบา แต่จะให้อยู่เหนือกฎหมายคงไม่ได้เราก็จะไปถามฝั่งโน้นว่า คุณเห็นด้วยไหม แล้วคุณจะเอาอะไรก่อน คุณมีอะไรมาเติมอีกไหม ต้องการอะไร เขาต้องการพื้นที่ปลอดภัยด้วยเหมือนกันใช่ไหม ต้องการความยุติธรรม ต้องการการพัฒนา ต้องการอาชีพ ต้องการการลงทุนขนาดใหญ่
ยันคุยกับตัวจริง ชี้ความสำเร็จคือได้คุยอยู่ เพราะเป็นหนทางเดียวในการหาทางออกจากความขัดแย้ง
ส่วนคำถามสำคัญที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่คุยอยู่ ตัวจริง เสียงจริงหรือไม่นั้น พล.อ.อักษรา กว่าวว่าไปหามาซิ ว่าคนอื่นมีอีกไหมล่ะ ก่อนจะไปพูดคุยต้องทำบัญชีผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ก่อน และบัญชีที่เรารู้จักกับบัญชีที่มาเลเซียรู้จักเป็นบัญชีเดียวกันหรือไม่ ต้องไปเช็กกับเขาอีก แล้วเอามาเทียบ รายชื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในบัญชีของเรา มาจากข้อมูลของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจสอบอีก ท่านผู้ว่าฯ ท่านผู้นำทางศาสนา จนทุกคนมั่นใจแล้วว่า ในบัญชีเป็นผู้ที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จริง จึงส่งให้ทางมาเลเซียตรวจสอบทั้งหมดว่า รู้หรือไม่ว่าเป็นใคร มายังไง ทางมาเลเซียก็เช็กแล้วตอบกลับมาว่า บัญชีที่เช็กตรงกันทั้งหมด ถึงเชิญมาคุย กว่าจะได้มา แต่ก็ยังมีคนมาบอกว่า ไอ้ที่คุยกันอยู่เนี่ย ปลอม แต่ที่จริงยังไม่ได้คุย แล้วไหนล่ะที่จริงของคุณ พอเปิดชื่อออกมันก็อยู่ในนี้ทั้งหมด แล้วมีนอกเหนือจากนี้ไหม ก็ไม่มี ที่เอ่ยชื่อมาแต่ละคนก็อยู่ในบัญชีทั้งหมด ตอนนี้ตัวละครออกมาครบทั้งหมดแล้ว คนสร้างปัญหา คนแก้ปัญหา เรื่องอย่างนี้โม้มากก็ไม่ได้ เพราะมีคนคอยถล่ม
มารา ปาตานี ยันไม่เกี่ยว ชี้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าเรื่องพื้นที่ปลอดภัย
ด้าน อาบูฮาฟิซ อัลฮากีม สมาชิกคนหนึ่งของมารา ปาตานี องค์กรร่มของขบวนการปลดปล่อยปาตานี หรือ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอบคำถามประชาไทไว้เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวกับมารา ปาตานี เห็นได้จากว่า เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต ก่อนที่จะมีมารา ด้วยซ้ำ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)