พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยเสนอชื่อ ถิ่นจ่อ แกนนำพรรคเอ็นแอลดีเชื้อสายมอญ ที่ปรึกษาออง ซาน ซูจี และ เฮนรี บันทียู นักการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์รัฐชิน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพม่า ขณะที่กองทัพพม่าเสนอ 1 รายชื่อโดยยังไม่มีการเปิดเผย คาดจะเลือกประธานาธิบดีพม่าคนใหม่ภายในสัปดาห์หน้า

(ซ้าย) ถิ่นจ่อ ผู้ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ในวันปล่อยตัว ออง ซาน ซูจี เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553 และ (ขวา) เฮนรี บันทียู ส.ส.พรรคเอ็นแอลดี จากรัฐชิน ผู้ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในส่วนของสภาชนชาติ (ที่มาของภาพ: Mizzima/YouTube-Vancung Thaihlio)

10 มี.ค. 2559 พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ซึ่งชนะการเลือกตั้งพม่าเมื่อพฤศจิกายนปี 58 ที่ผ่านมา เสนอชื่อ ถิ่นจ่อ (Htin Kyaw) อายุ 69 ปี แกนนำพรรคเอ็นแอลดีเชื้อสายมอญ-พม่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีพม่า ในโควตาของสภาผู้แทนราษฎร และเสนอชื่อ เฮนรี บันทียู อายุ 57 ปี ส.ว.กลุ่มชาติพันธุ์จากรัฐชิน นักถือศาสนาคริสต์ เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีพม่า ทั้งนี้ตามรายงานของเมียนมาไทม์

ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายว่าพรรคเอ็นแอลดีจะเสนอชื่อนักการเมืองจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยรัฐฉานมาเป็นผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี แต่ก็มีการระบุชื่อนักการเมืองจากรัฐชินแทนดังกล่าว

โดยในวันพุธนี้ (10 มี.ค.) คาดหมายว่าจะมีการเสนอชื่อรองประธานาธิบดี 3 รายชื่อ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นการเสนอชื่อจากสภาประชาชน หรือสภาผู้แทนราษฎร 1 รายชื่อ สภาชนชาติหรือสภาสูงของพม่า 1 รายชื่อ และโควตาจากกองทัพพม่า 1 รายชื่อ

จากนั้นเมื่อได้ 3 รายชื่อมาแล้ว ทั้งสมาชิกของทั้งสภาผู้แทนราษฎร และสภาชนชาติ ทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง 75% และจากการแต่งตั้งของกองทัพ 25% จะทำการเลือก ประธานาธิบดี 1 ตำแหน่ง และรองประธานาธิบดี 2 ตำแหน่ง โดยกระบวนการจะเสร็จสิ้นก่อน 30 มีนาคม ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง

ทั้งนี้พรรครัฐบาลชุดเดิม USDP เสนอ 2 รายชื่อเช่นกัน โดยในสภาผู้แทนราษฎร พรรค USDP จะเสนอชื่อ นพ.จายหมอกคำ รองประธานาธิบดีเชื้อสายไทใหญ่คนปัจจุบัน และ ขิ่นอ่องมิ้นท์ อดีตประธานสภาชนชาติของรัฐสภาชุดก่อน แต่คาดหมายว่าจะไม่ได้รับเลือกจากทั้ง 2 สภา

สำหรับถิ่นจ่อ ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะได้รับเลือกประธานาธิบดีนั้น มีเชื้อสายมอญ-พม่า หลังจบสถาบันเศรษฐศาสตร์ย่างกุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2505

สำหรับถิ่นจอ ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะได้รับเลือกประธานาธิบดีนั้น มีเชื้อสายมอญ-พม่า ด้านประวัติการทำงานและการศึกษานั้น ในเว็บไซต์ Frontier Myanmar ระบุว่า หลังจบสถาบันเศรษฐศาสตร์ย่างกุ้ง มหาวิทยาลัยย่างกุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2505 ในปี พ.ศ. 2511 ได้เรียนปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ ที่สถาบันเดิมและสอนหนังสือด้วย จากนั้นไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยลอนดอนในปี พ.ศ. 2514 ถึง 2515

ในปี 2523 - 2535 เป็นเจ้าหน้าที่กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศพม่า ในปี พ.ศ. 2530 ได้เรียนด้านการบริหารที่ วิทยาลัยการบริหารศาสตร์ อาร์เธอร์ ดี ลิตเติล ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา จากนั้นในปี พ.ศ. 2535 ได้ลาออกจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ของกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

ถิ่นจ่อ ถือเป็นคนวงในของพรรคเอ็นแอลดี โดยบิดาของเขาคือ มิงตุ๊หวุ่น (Min Thu Wun) เป็นนักเขียนและนักกวีเชื้อสายมอญ-พม่าคนสำคัญ ในยุคเรียกร้องเอกราช เขาเข้าร่วมกลุ่มนักเขียนรุ่นใหม่ในนาม "Khit-San" หรือ "ทดลองยุคสมัย" และมีผลงานเขียนด้านวรรณกรรมทดลองหลายเรื่อง โดย มิงตุ๊หวุ่น ชนะการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2533 ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

ขณะที่พ่อภรรยาของถิ่นจ่อ คือ ละวิน เป็นผู้ร่วมก็ตั้งพรรคเอ็นแอลดี และเคยมีตำแหน่งเป็นเลขานุการพรรคและเหรัญญิกพรรค โดยทั้งมิงตุ๊หวุ่น และละวิน เสียชีวิตแล้ว ส่วนภรรยาของถิ่นจ่อ คือ ซูซูละวิน เป็น ส.ส.พรรคเอ็นแอลดี ในการเลือกตั้งเขตตง-ควะ ภาคย่างกุ้ง ในการเลือกตั้งซ่อมเดือนเมษายน พ.ศ. 2555 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้ง 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สำหรับเส้นทางการทำงานการเมืองของถิ่น จ่อ นั้น หลังจากจบการศึกษาได้กลับมารับราชการที่พม่านั้น ต่อมาได้ลาออกจากราชการเพื่อเข้าร่วมพรรคเอ็นแอลดี

ในส่วนที่มีการนำเสนอข่าวว่าถิ่น จ่อ เป็นคนขับรถของออง ซาน ซูจี นั้น เนื่องจากเขาเคยขับรถให้ออง ซาน ซูจี ในวันที่ออง ซาน ซูจี ได้รับการปล่อยตัวออกจากบ้านพักเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2553 เท่านั้น

ทั้งนี้ถิ่น จ่อมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของมูลนิธิดอ ขิ่นจี ตั้งชื่อตามชื่อของมารดา ออง ซาน ซูจี เป็นมูลนิธิที่ทำงานด้านสาธารณสุขและการศึกษาในพม่าด้วย

หมายเหตุ: ประชาไทแก้ไขข้อมูลเรื่องประวัติการศึกษาของถิ่นจ่อ เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 10 มี.ค. 59 หลังตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ตามที่มีการนำเสนอก่อนหน้านี้