เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ช่วงเที่ยง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางเข้าไปกองทัพภาคที่ 1 หลังเจ้าหน้าที่ทหาร ได้โทรศัพท์มาเพื่อขอเชิญตนมาพูดคุยร่วมกับ พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาคที่ 1 (อ่านรายละเอียด) นั้น
จตุพร เล่าเหตุการณ์ คสช.เรียกเข้าค่าย เปิดคลิปอ้างต่อว่าประยุทธ์ ทั้งที่เป็น 'วันชัย'
ล่าสุดวันนี้ (3 ก.พ.59) นายจตุพร ได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านรายงานมองไกล ว่า ทหารต้องการให้ไปทานข้าวเที่ยงกับพล.ท.เทพพงศ์ แต่ไม่มีข้าวให้กิน นำเพียงกาแฟกับของว่างมาให้ และผู้มาพูดคุยเป็นหัวหน้าสำนักงานกองทัพภาคที่ 1 ไม่ใช่ตัวแม่ทัพภาคที่ 1 จากนั้นมีหมอ พยาบาลจะมาตรวจร่างกาย แล้วให้เซ็นเอกสารว่า ปล่อยตัวแล้วอย่างปลอดภัย ซึ่งตนไม่เซ็น
นายจตุพร เล่าต่อว่า จากนั้นทหารยกคอมพิวเตอร์มาเปิดคลิปให้ดู เป็นรายการของ น.ส.อัญชลี ไพรีรัก จากช่องนิวส์ (NEWS) โดยตัดต่อคลิปรายการมองไกล เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ในช่วงที่ตนตอบโต้นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวหานักการเมืองออกมาต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญว่า ดิ้นเหมือนพวกผีโดนน้ำมนต์ ตนจึงสวนกลับไปว่า พวกโหนเผด็จการมีพฤติกรรมไม่แตกต่างจากพวกหมาถูกน้ำร้อนลวก แต่ทหารเข้าใจผิด คิดว่า ไปต่อว่านายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกี่ยวกัน
"เรื่องราวถูกเชิญไปกินข้าวที่กองทัพภาคที่ 1 ตนเข้าใจทันทีว่า รัฐบาลมาจากไหนก็ตาม ถ้าหูเบาย่อมเกิดปัญหาตามมาทั้งนั้น แล้วจะเกิดเหตุทะเลาะกัน จึงอยากบอกว่า หาเหตุกันใหม่ เพราะเรื่องที่เรียกไปกองทัพภาคที่ 1 ไม่ใช่เหตุต้องหาเรื่องกัน เพราะเป็นพูดสวนกลับนายวันชัย ไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือจะให้ต่อว่านายวันชัย คือการสวนกลับนายกรัฐมนตรีหรือ เป็นเรื่อง ที่ไม่เป็นเรื่องเลย" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มีอารมณ์เดือด เหตุการณ์จึงสอดคล้องกัน จนเรื่องราวไปกันใหญ่ แต่ตนรู้ถึงสาเหตุการเครียดของนายกรัฐมนตรีมาจากอะไร ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ตำหนิการวิจารณ์ร่าสงรัฐธรรมนูญของตนว่า พูดไม่ดี ถ้าพูดอีกจะเรียกมาปรับทัศนคติรายวัน รวมทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตนวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญไม่สร้างสรรค์ พูดไม่ไพเราะ
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตนขอพูดไปถึงผู้นำ คสช. ทั้งหลายว่า พวกตนเป็นคนลิ้นเดียว และหน้าเดียว ถ้าจะต่อว่า นายกรัฐมนตรี ก็จะควรตรงไปตรงมา แต่การสวนกลับนายวันชัยนั้น ไม่ได้ว่านายกรัฐมนตรี และไม่ได้พูดปลุกปั่นประชาชน ซึ่งถ้ามาตีความแบบหาเรื่องกันแล้ว คงเกิดขึ้นทุกวัน เพราะการวิจารณ์รัฐธรรมนูญก็เป็นการแสดงความเห็นที่แตกต่าง และเป็นฝ่ายที่ประกาศออกเสียงประชามติว่า ไม่รับ หากไม่ต้องการให้ใครพูดวิจารณ์แล้ว ก็ควรไปหุบปากฝ่ายรับร่างรัฐธรรมนูญให้หมดด้วย เมื่อช่องสถานีอีกฝ่ายวิจารณ์ได้ กลับไม่ว่าอะไร แต่พวกตนมาห้ามและกล่าวหากัน
ส่วน พล.อ.ประวิตร ตำหนิการพูดไม่สุภาพ พล.อ.อนุพงษ์ระบุเป็นการพูดไม่สร้างสรรค์นั้น นายจตุพร กล่าวว่า พวกตนระวังมาตลอด แต่ฝ่ายพวกท่านมาแหย่รังแตนก่อน พวกตนมีมือสิบนิ้วเหมือนทุกคน จึงไม่ให้ใครมารังแก จะไม่ให้ไม่สู้หรือ เมื่อให้ฝ่ายอื่นพูดได้ แต่มาห้ามพวกตนพูดอย่างนั้นหรือ ซึ่งความคิดเช่นนี้ สร้างสรรค์แล้วหรือ
ขออย่ารีบเอาเลือกตั้ง โดยไม่สนใจว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
"ผมย้ำมาตลอดไม่ต้องการให้พรรคพวกรีบเอาเลือกตั้ง เมื่อประชาธิปไตยยังไม่ถูกต้อง แต่พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ ที่ต้องการให้พูดดี สร้างสรรค์ มีเหตุผลนั้น การเริ่มต้นแบบนี้ ฝ่ายท่านต้องสร้างสรรค์ก่อน ถ้าท่านสร้างสรรค์ ผมก็พร้อม หรือต้องการให้พูดสร้างสรรค์แบบนายกรัฐมนตรี อย่าเป็นการพูดเพราะมีอำนาจมากกว่า ควรคิดว่าคนเท่ากัน อำนาจไม่มีตลอดชีวิต มีมาก็จากไป ตนไม่ใช่ชายชาติทหาร หากท่านปฏิบัติอย่างชายชาติทหาร ตนก็จะปฏิบัติกับท่านอย่างชายชาติประชาชนเช่นกัน" นายจตุพร กล่าว
ยันเดินหน้าคว่ำร่างรัฐธรรมนูญต่อ อัดคสช.ถ้าไม่อยากให้คว่ำก็เลิกประชามติ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)