Skip to main content
sharethis
30 ม.ค. 2559 เว็บไซต์ ThaiPBS รายงานว่า น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า มติการประชุมกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)ครั้งที่ 3/59 เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคำสั่งทางปกครองแก่บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่าย มิได้ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงการเผยแพร่ช่องรายการที่มีการโฆษณาและการบริการธุรกิจ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามมติที่ประชุม กสท. ครั้งที่ 42/58 วันที่ 28 ธ.ค.2558 โดนปรับทางปกครองเป็นเงิน 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ตามมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 โดยให้บริษัทฯ ชำระค่าปรับให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานกสทช. หากบริษัทฝ่าฝืนไม่ชำระค่าปรับภายในเวลากำหนด ให้มีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัทชำระค่าปรับภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือเตือน และหากบริษัทยังไม่ปฏิบัติตามคำเตือนอีก สำนักงานอาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สิน และขายทอดตลาด เพื่อชำระเงินให้ครบถ้วน ตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งนอกจากมาตรการปรับทางปกครองดังกล่าว หากบริษัทฯยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอยู่อีก อาจพิจารณาใช้มาตรการบังคับทางปกครองในขั้นที่สูงต่อไป
 
ส่วนกรณีที่ ช่อง 7 ช่อง 3 HD ช่อง อสมท. ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการโฆษณาและการบริการธุรกิจทั้งหมดมาออกอากาศในโครงข่ายโทรทัศน์ กิจการไม่ใช้คลื่น นอกเหนือจากประกาศตามที่ กสทช. กำหนดนั้น กสท.ได้มีมติให้มีหนังสือแจ้งทั้ง 3 บริษัท ถือปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตโดยเคร่งครัดและขอให้ดำเนินการป้องกันหรือแก้ไขมิให้ช่องรายการที่ตนได้รับใบอนุญาตถูกนำไปใช้ออกอากาศบนโครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นความถี่แบบบอกรับสมาชิก
 
น.ส.สุภิญญากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีบริษัทไทยนิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด (ช่องรายการ TNN24) และบริษัท ทรู โฟยู สเตชั่น (ช่องรายการTRUE4U) ชี้แจงเป็นหนังสือว่า อยู่ระหว่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครองอยู่โดยขอโต้แย้งคัดค้านคำสั่งเรื่องการโฆษณาและการบริการทางธุรกิจเกินระยะเวลาที่ประกาศกำหนดและคดียังไม่ถึงที่สุด รวมทั้งถือได้ว่าได้รับทราบผลของคำพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้นที่มีคำตัดสินไม่ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ กสท. กรณีการเรียงช่องแล้ว การกระทำของทั้ง 2 บริษัทจึงมีเจตนาขัดคำสั่งคณะกรรมการโดยชัดแจ้ง รวมทั้งมีการออกอากาศโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดประกอบกับมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 อยู่ จึงมีคำสั่งทางปกครองเตือนให้บริษัททั้ง 2 ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคดังกล่าว โดยให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากยังฝ่าฝืนหรือไม่แก้ไขให้ถูกต้อง กสท.อาจพิจารณากำหนดมาตรการทางปกครอง จำนวน 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง และในที่ประชุม กสท.ได้มอบหมายสำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งเตือนทางปกครองให้บริษัทฯแก้ไขการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขการเป็นผู้ได้รับอนุญาต กรณีนำช่องรายการอื่นมาออกอากาศต้องมีหรือได้รับสิทธิในการเผยแพร่ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาอื่นใดที่จำเป็น และต้องได้รับสิทธิทางทรัพย์สินทางปัญญาที่จำเป็นในงานประกอบอื่นที่ติดมากับรายการดังกล่าวด้วย หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว กสท.อาจพิจารณาใช้มาตรการปรับทางปกครองต่อไป ทั้งนี้ได้มีการรับรองมติดังกล่าวเพื่อสำนักงาน กสทช.นำไปดำเนินการต่อไป
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net