Skip to main content
sharethis

'ประยุทธ์' ชี้เหตุไม่อนุญาต 'พิชัย' บินไปร่วมงานสภาคองเกรส เกรงพูดต้านรัฐบาล ทำประเทศเสียหาย 'สรรเสริญ' ชี้อดีตมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความขัดแย้ง ไปต่าง ปท. มีแนวโน้มที่จะกล่าวพาดพิงหรือให้ร้ายประเทศ 

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในกรณีที่คสช. ไม่อนุญาตให้นาย พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมงาน "64th Annual National Prayer Breakfast" โดยเชิญในนามคณะกรรมาธิการเจ้าภาพของสภาคองเกรส ว่า ถ้าเขาไปพูดแล้วเกิดความเสียหาย ก็ไม่สมควรไป ถามว่าจะพูดดีต่อประเทศหรือไม่ ต่อต้านการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ อย่ามาแนะนำเรื่องที่เราทำอยู่แล้ว ทำไมตอนที่ท่านอยู่ในตำแหน่งไม่ทำเองล่ะ อย่าพูดว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะตนไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว เว้นเสียแต่ว่าท่านจะละเมิดกฎหมาย

ขณะที่วันนี้ (20 ม.ค.59) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีพรรคการเมืองหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ที่ไม่อนุญาตให้นายพิชัย เดินทางไปร่วมประชุมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า คสช. คงพิจารณาจากสิ่งที่นายพิชัยเคยปฏิบัติมา เพราะนายพิชัยมักแสดงความเห็นหรือมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความขัดแย้งในสังคมจนถูกเรียกปรับทัศนคติบ่อยครั้ง และคาดหมายได้ว่าหากมีโอกาสไปพูดในต่างประเทศอาจมีแนวโน้มที่จะกล่าวพาดพิงหรือให้ร้ายประเทศ เช่นเดียวกับที่แกนนำบางคนเคยทำมาแล้ว ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง

“เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงนี้แกนนำพรรคการเมืองดังกล่าวต้องการใช้เวทีระหว่างประเทศเป็นช่องทางแสดงความคิดเห็นของตน ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีสิ่งใดแอบแฝงหรือไม่ หรือเป็นการล็อบบี้ให้มีการเชิญไปหรือไม่ นับตั้งแต่ที่อดีตนายกรัฐมนตรีขอไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์กับรัฐสภายุโรป ตามมาด้วยแกนนำพรรค จนมาถึงนายพิชัย และคาดหมายได้ว่าอาจจะมีการเชิญนักการเมืองอื่นในพรรคนี้ไปร่วมแสดงความเห็นในต่างประเทศอีกเป็นระยะๆ เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพ”  พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า การยกข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนมาเป็นเหตุผลเพื่อขอออกนอกประเทศนั้น เป็นคนละเรื่องกับการละเมิดกฎหมาย ซึ่งหลายประเทศรับรู้และเข้าใจดีว่าขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทยไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ แต่ที่ผ่านมาแกนนำพรรคการเมืองนี้กลับพยายามสวนกระแสด้วยการทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎหมาย นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนแก่สังคม ขัดต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงอยากเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว โดยรัฐบาลและ คสช.ยืนยันว่าจำเป็นต้องใช้ดุลพินิจและตัดสินใจในสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด

 

เรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย และประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net