เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เผยแพร่แถลงการของสมาคมฯ โดยระบุว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มีคำสั่งให้กรมธนารักษ์เร่งรัดการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชกรรมและอุตสาหกรรม 2542 เพื่อเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินเป็นระยะเวลา 99 ปี จากปัจจุบันกำหนดไว้เพียง 30 - 50 ปี โดยเหตุผลที่ต้องการให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินนานถึง 99 ปี นั้น เพราะมองว่าระยะเวลา 50 ปี ไม่จูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางกรมธนารักษ์กำลังศึกษาอยู่ และคำสั่งของรองนายกฯ คือต้องเร่งศึกษาสรุปให้ได้ภายในเดือนนี้ ก่อนส่ง ครม.พิจารณาเพื่อแก้กฎหมายต่อไปนั้น
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอคัดค้านนโยบายและการดำเนินการดังกล่าว เพราะการยกเหตุผลการให้เช่านานถึง 99 ปี เป็นแรงจูงใจ ให้มีการลงทุนของต่างชาติ เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่น่าจะเพียงพอ เพราะหลายฝ่ายเคยศึกษามาแล้วว่า ระยะเวลาการลงทุนจนถึงจุดคุ้มทุนไม่เกิน 30 ปี การเปิดให้เช่าที่ดินนาน 99 ปี ถือว่านานมาก นานมากกว่าช่วงอายุคนโดยเฉลี่ยกันเลยทีเดียว ซึ่งการเปิดโอกาสให้มีการเช่าที่ได้นานขนาดนั้น เท่ากับยกสิทธิของคนไทยที่ควรจะมีเหนือพื้นแผ่นดินกันเป็นชั่วอายุเยี่ยงนี้ หากที่ดินผืนนั้น มีความสำคัญในแง่ของเศรษฐกิจ มูลค่าย่อมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี การเปิดให้เช่า 99 ปี ไม่ต่างอะไรกับ “ยกสิทธิเหนือแผ่นดิน” ให้กับต่างชาติไปเลย ดังกรณีฮ่องกงที่จีนถูกบังคับจากอังกฤษให้เช่าเกาะฮ่องกงนานถึง 99 ปี ตอนนั้นจีนแผ่นดินใหญ่รู้สึกขมขื่นเพียงใด
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ทุกวันนี้ปัญหาที่ดินในบ้านเรายังมีปัญหาคนไร้ที่ทำกินอยู่ไม่น้อย แต่นี้กลับจะยกให้ต่างชาติเช่านานชั่วอายุคนกันเลยนั้นชอบแล้วหรือ การเช่าที่ดินเพื่อลงทุนแล้ว รัฐจำเป็นต้องวางระบบสาธารณูปโภคไปรองรับด้วยใช่หรือไม่ หากมีต่างชาติเข้ามาเช่าเป็น นิคมของตนเอง สร้างเป็นหมู่บ้านเฉพาะของพวกเขาจะได้หรือไม่โดยอ้างเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ฯลฯ การดึงต่างชาติเข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นระดับหนึ่ง แต่การจะยกสิทธิให้เขานาดนั้นเป็นการสมควรหรือไม่ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในสมัยทักษิณได้แต่คิดแต่ยังไม่กล้าเดินหน้า แต่ทว่ารัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจที่อ้างเพื่อคืนความสุขให้กับประชาชนนั้น จะกล้าทำในสิ่งที่ประชาชนในชาติและลูกหลานในอนาคตจะสาปแช่งได้เชียวหรือ
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอวิงวอนให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดทบทวนและระงับแนวคิด นโยบาย และการกระทำดังกล่าวเสีย และหันไปพัฒนาเศรษฐกิจของชาติในแนวทางอื่นที่มีอีกนับร้อยนับพันทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เว้นแต่ท่านจะหมดสิ้นแล้วซึ่งสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ จึงหันมาใช้แนวทางแก้กฎหมายเพื่อเอื้อนายทุนต่างชาติให้ยึดครองประเทศไทยได้ 99 ปีเช่นนั้น
