Skip to main content
sharethis

ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐเยือนทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงการเมืองไทย-เชิญสหรัฐฯ ถามประชาชนทั่วไปได้เลย พร้อมขอร้องเห็นแก่ความสัมพันธ์ยาวนานช่วยดูแลเรื่องลดเกรดการบิน-ประมงด้วย และฟ้องว่ามีบุคคลแอบแฝงกลุ่มนักศึกษาทำให้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ รัฐบาลจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ขวา) ระหว่างการหารือกับ แดเนียล รัสเซล (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เมื่อ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนด้านหลังของผู้ช่วยรัฐมนตรีคือ กลิน ที เดวีส์ (ที่ 2 จากซ้าย) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ ดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี (ที่ 1 จากซ้าย) อัครราชทูตที่ปรึกษาในประเทศไทย สำหรับผู้แปลภาษาของ พล.อ.ประยุทธ์คือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค (นั่งแถวหลัง) รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังการหารือกับ แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เมื่อ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนด้านหลังคือ ดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี อัครราชทูตที่ปรึกษาในประเทศไทย (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

 

17 ธ.ค. 2558 เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (16 ธ.ค.) นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมหารือยุทธศาสตร์ไทย­สหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ เผยแพร่ในเว็บไซต์รัฐบาลไทย โดย พล.ต.วีรชน ระบุว่า การพบกันในวันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ ไทย-สหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ต้องการมีความร่วมมือกับไทยที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นในทุกมิติและทุกระดับ

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับ ผู้ช่วยรัฐมนตรีแดเนียล รัสเซล สู่ประเทศไทยเป็นครั้งที่สองของปีนี้ ซึ่งสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำว่า ไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้มายาวนานและต้องการกระชับความสัมพันธ์กับไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้น  โดยก่อนการเดินทางเยือนในภูมิภาคนี้ นายแดเนียลได้พบหารือกับประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งได้เล่าถึงการพบหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและทราบถึงสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีความซับซ้อน โดยประธานาธิบดีโอมาบาได้ย้ำว่า ไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯและต้องการสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตลอดจน ความร่วมมือด้านความมั่นคง ซึ่งในประเด็นเรื่องความมั่นคง สหรัฐฯ ยินดีร่วมมือให้การสนับสนุนในทุกประเด็นและยืนยันการฝึกร่วมคอบบราโกลด์ในไทยต่อไป รวมทั้ง จะแสวงหาความร่วมมือกับไทยและอาเซียนในการสร้างความมั่นคงในภูมิภาคต่อไป นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังได้ย้ำคำเชิญนายกรัฐมนตรีในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ วาระพิเศษ และการเข้าร่วมการประชุมนิวเคลียร์ซัมมิทที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพในช่วงต้นปีหน้าด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองในอดีตถึงปัจจุบันและกล่าวว่า ทางสหรัฐฯ สามารถสอบถามได้จากประชาชนทั่วไปในประเทศไทยได้ พร้อมใช้โอกาสนี้ย้ำถึงเจตนารมณ์ที่สำคัญในการบริหารประเทศ โดยรักษาสมดุลระหว่าง หนึ่ง ระบอบประชาธิปไตยและการคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน และสอง ความมีเสถียรภาพและความมั่นคงของชาติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นวงจรปัญหาทางการเมืองเดิม โดยย้ำว่า เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือการปฏิรูปที่หยั่งรากลึกและนำไปสู่ประชาธิปไตยที่แข็งแรง มีรัฐบาลที่โปร่งใส มีหลักนิติธรรม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนไทยทุกคน

ทั้งนี้ ประชาธิปไตยเป็นมากกว่าเพียงการเลือกตั้ง สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นการวางรากฐานให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่มั่นคง พร้อมเชื่อว่า สหรัฐฯ จะไม่นำมาตรฐานเดียวมาพิจารณาการดำเนินการของประเทศต่างๆที่มีระดับการพัฒนาที่ไม่เท่ากัน โดยหวังว่า การที่นายแดเนียล ได้พบหารือกับภาคส่วนและบุคคลต่าง ๆ จะได้รับข้อมูลจากทุกฝ่ายตามความเป็นจริงและได้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศ

นายแดเนียลฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทยมากขึ้น แต่ยอมรับว่าสาธารณชนทั่วไปและสื่อมวลชนสหรัฐฯ ยังขาดความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับประเทศไทย ในบางประเด็น อาทิ เรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิมนุษยชน การอพยพที่ไม่ปกติและปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาต่างๆ พร้อมชี้แจงกรณี ม.112  ซึ่งทางสหรัฐฯได้รับฟังอย่างตั้งใจ โดยในเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้เสรีภาพสื่อและประชาชนในการแสดงออก ไม่ได้ปิดกั้น แต่ต้องไม่สร้างความขัดแย้งในสังคมเพิ่ม นอกจากนี้ ได้ให้ความสำคัญกับการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการ ซึ่งสามารถแสดงความเห็นอย่างสร้างสรรค์

สำหรับประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนและการค้ามนุษย์นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพียงฉบับเดียวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีหลักเกณฑ์ว่า ถ้ามีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้องมีการดำเนินการ 2 อย่างคือ ให้มีการพิสูจน์สัญชาติและส่งตัวกลับประเทศต้นทาง หรือ สองถ้าผู้ถูกจับกุมได้ มีหมายจับต้องนำส่งประเทศนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลกำลังเร่งแก้กฎหมายฉบับนี้อยู่ สำหรับประเด็นการค้ามนุษย์ รัฐบาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งทหารและตำรวจ ในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากโดนจำกุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ได้รับการละเว้น

นายกรัฐมนตรียังได้ขอร้องให้สหรัฐฯ ช่วยดูแลเรื่อง การบิน FAA และประมงด้วย  เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีมายาวนาน ซึ่งนายแดเนียลรับว่า จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาและเปิดช่องทางทางกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทยในสหรัฐอเมริกาให้เป็นกรณีเร่งด่วนอีกด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า การดำเนินการของรัฐบาลเป็นไปภายใต้หลักกฎหมาย อย่างไรก็ดี มีบุคคลบางกลุ่มที่แอบแฝงมาในกลุ่มนิสิตนักศึกษา ทำให้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายบ้างเพื่อรักษาความสงบในการแก้ปัญหา แต่ก็มีความพยายามบิดเบือนจากคนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งต้องการให้เจ้าหน้าที่ จับกุมเพื่อให้ต่างประเทศที่ไม่เข้าใจ นำไปขยายความขัดแย้งต่อ โดยเบื้องหลังมีแกนนำนักการเมืองให้ท้าย คอยสนับสนุนอยู่ โดยบุคคลเหล่านี้ไม่ยอมรับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

ในตอนท้าย นายแดเนียลฯ ได้แสดงความพอใจที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และจะรายงานผลการหารือที่เป็นประโยชน์ ไปยังกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อให้สหรัฐฯ มีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยมากขึ้น  และยืนยันความต้องการที่จะร่วมมือกับประเทศไทย อย่างสร้างสรรค์ในระดับทวิภาคีและเวทีระหว่างประเทศต่อไป พล.ต.วีรชนระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net