Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา นายไกรรัช  เงยวิจิตร รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยว่า วันที่ 1 ธ.ค.58 ศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้นทุกแห่ง จะดำเนินการเปิดทำการแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ เป็นวันแรก โดยแผนกคดีดังกล่าวจะพิจารณาพิพากษาคดีปกครองเกี่ยวกับวินัยการคลังและการงบประมาณโดยเฉพาะ ซึ่งหมายถึง คดีพิพาททางปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ในกรณีการฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับการบริหารการเงินและการคลังที่ออกตามความในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดอื่นใดที่เกี่ยวกับการรับ การเบิก การจ่าย การใช้จ่าย การบริหารงบประมาณ และก่อหนี้ผูกพัน การจัดเก็บรายได้ การใช้ประโยชน์ การเก็บรักษาการพัสดุ และการจัดการซึ่งเงินทรัพย์สิน สิทธิประโยชน์ใด ๆ ของหน่วยงานทางปกครอง ที่ได้มาจากเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินกู้ เงินอุดหนุน เงินบริจาค และเงินช่วยเหลือจากแหล่งในประเทศหรือต่างประเทศ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์ของหน่วยงานทางปกครอง ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงเงิน ทรัพย์สิน สิทธิและผลประโยชน์ดังกล่าวที่หน่วยงานทางปกครองมีอำนาจ หรือสิทธิใช้จ่ายหรือประโยชน์ด้วย ซึ่งเป็นความผิดวินัยทางการคลังและการงบประมาณและได้รับการลงโทษปรับทางปกครองตามกฎหมาย

นายไกรรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ เป็นแผนกคดีพิเศษ ลำดับที่ 3 ที่มีการจัดตั้งขึ้นในศาลปกครอง หลังจากที่ได้เปิดทำการแผนกคดีสิ่งแวดล้อม และแผนกคดีบริหารงานบุคคล ไปแล้วเมื่อช่วง 2 – 4 ปี ที่ผ่านมา เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีปกครองเกี่ยวกับวินัยการคลังและการงบประมาณเป็นไปโดยรวดเร็ว ทันต่อการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ โดยประธานศาลปกครองสูงสุดได้มีประกาศลงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 ให้จัดตั้งแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณในศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น เพื่อทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีปกครองเกี่ยวกับวินัยการคลังและการงบประมาณในเขตอำนาจของศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น โดยแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ จะประกอบด้วยองค์คณะและตุลาการผู้แถลงคดีที่มีความเชี่ยวชาญคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ ตามที่ประธานศาลปกครองสูดสุดประกาศกำหนด กรณีเป็นแผนกฯในศาลปกครองสูงสุด และตามที่อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นประกาศกำหนด กรณีเป็นแผนกฯ ในศาลปกครองชั้นต้น ทั้งนี้ ประกาศจัดตั้งแผนกคดีดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป

อนึ่ง ณ ปัจจุบันมีศาลปกครองชั้นต้นที่เปิดทำการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 11 แห่ง ได้แก่ ศาลปกครองกลาง (ตั้งอยู่ในพื้นที่อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร) ศาลปกครองเชียงใหม่ ศาลปกครองสงขลา ศาลปกครองนครราชสีมา ศาลปกครองขอนแก่น ศาลปกครองพิษณุโลก ศาลปกครองระยอง ศาลปกครองนครศรีธรรมราช ศาลปกครองอุดรธานี ศาลปกครองอุบลราชธานี และศาลปกครองเพชรบุรี

สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งตุลาการหัวหน้าแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ
ในศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองชั้นต้น มีรายนามดังนี้

1.     นายวิษณุ  วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการหัวหน้าแผนกคดีวินัยการคลังฯ ในศาลปกครองสูงสุด

2.     นายประวิทย์  เอื้อนิรันดร์ รองอธิบดีศาลปกครองกลาง ปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการหัวหน้าแผนกคดีวินัยการคลังฯ ในศาลปกครองกลาง

3.     อธิบดีศาลปกครองในภูมิภาคแต่ละศาล ปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการหัวหน้าแผนกคดีวินัยการคลังฯ ในศาลปกครองในภูมิภาคของแต่ละศาล อีกหน้าที่หนึ่ง

วิษณุ ชี้พิจารณาได้รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอน ปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพ

ล่าสุด 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายวิษณุ วรัญญู ได้ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไทย ด้วย ตอนหนึ่งว่า ประโยชน์ของการแยกแผนกคดีวินัยการคลังและงบประมาณ จะทำให้คดีดำเนินกระบวนพิจารณาได้รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนบางอย่างลง เมื่อคดีเข้าสู่แผนกเฉพาะ จะได้รับการดำเนินกระบวนการพิจารณาในลักษณะพิเศษ เพราะต้องเสร็จเร็วกว่าปกติ

“คดีที่เกี่ยวกับการปฏิบัติไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเงิน คดีทุจริต ประชาชนอยากทราบผลเร็ว หากประชาชนต้องรอผลการตัดสิน 5 ปี 10 ปี ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่า การปราบกรามการทุจริตไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าทำให้เสร็จได้โดยเร็ว ก็จะทำให้เห็นว่า การปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพ และจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างระมัดระวัง”  นายวิษณุ กล่าว  

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net