2 ต.ค. 2558 ชาคริต เพ็ชรวงษ์ อดีตพนักงานขับรถของบริษัทรถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า เขาและเพื่อนอีก 6 คนถูกบริษัทขอให้ออกจากงานเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ผ่านการทดลองงานแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.

ชาคริต เล่าว่า ที่ผ่านมา เขาและเพื่อนเริ่มอบรมตั้งแต่ 2 มี.ค. ไม่เคยมีปัญหาในการทำงาน หรือขาด ลา มาสาย สาเหตุเดียวที่คิดว่าอาจเป็นไปได้คือ กรณีที่เขาและเพื่อนทวงถามถึงการขึ้นเงินเดือนหลังผ่านการอบรม 4 เดือน เนื่องจากได้รับแจ้งจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลในวันที่มาสัมภาษณ์งานว่าถ้าผ่านโปรจะได้เงินเดือนเพิ่มอีก 2,000 บาท จาก 12,500 บาท ทั้งนี้ พวกเขาได้ดำเนินการสอบถามไปตามสายบังคับบัญชาจนถึงผู้อำนวยการ จากนั้นราว 2-3 สัปดาห์ ผู้อำนวยการได้มาสอบถามความเป็นมาจากพวกเขา โดยเขาเองได้บอกผู้บริหารว่าไม่ได้ต้องการเรียกร้อง ถ้าเป็นการเข้าใจผิดก็จะยอมรับ แต่ถ้าถูกก็ขอให้ชี้แจงว่าเหตุใดจึงยังไม่ปรับเงินเดือน ซึ่งก็ได้คำตอบว่า จะไม่มีการปรับเงินเดือน และจะต้องอบรมต่ออีก 2 เดือน โดยจะเป็นการอบรมในขณะปฏิบัติงาน (on the job training) และมีการประเมินทุกวัน ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับ

ชาคริต กล่าวว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ในวันรับกุญแจและจะได้ใบอนุญาตทำงาน ครูผู้ฝึกก็จองห้องประชุมแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาแต่ละคนถูกกันตัวออกไปคนละห้อง ไม่ให้ติดต่อกัน และบีบให้ลาออก โดยตัวชาคริตเองได้ขอลาออกเอง เนื่องจากเกรงจะกระทบงานในอนาคต ส่วนเพื่อนของเขาอีกหกคนกังวลเรื่องเงินชดเชย จึงให้บริษัทเซ็นเลิกจ้าง

ชาคริตบอกว่า เขาไปร้องเรียนที่กรมคุ้มครองแรงงาน แต่ได้คำตอบว่าเนื่องจากเขาเซ็นลาออกไปแล้ว และได้ค่าชดเชยแล้ว จะเรียกร้องอะไรไม่ได้ หากอยากได้ความชอบธรรมให้ร้องต่อศาลแรงงานเอง พวกเขาจึงพยายามติดต่อสื่อต่างๆ เพื่อให้ช่วยเป็นสื่อกลาง เพราะพวกเขาเดินไปถามบริษัทเองไม่ได้แล้ว ขณะนี้เดือดร้อนกันมาก เขาเองและเพื่อนบางคนยังหางานไม่ได้ ล่าสุด พวกเขาตัดสินใจยื่นเรื่องต่อศาลแรงงาน ฟ้องนายจ้างเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

"อยากให้เขาชี้แจงว่าทำไมถึงเอา[เรา]ออก ถ้าประเมินไม่ผ่าน เอาหลักฐานให้ดูได้ไหม ถ้าไม่ผิด ให้กลับไปทำงานได้ไหม" ชาคริตกล่าวและยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการโจมตีองค์กรแต่อย่างใด อยากจะกลับไปทำงานจริงๆ เขาเองลาออกจากที่เก่ามาทำงานที่นี่เพราะเชื่อว่าจะเป็นอาชีพที่มั่นคง เพราะเห็นว่าในอนาคต MRT จะมีส่วนขยายไปหลายที่และอาชีพนี้เป็นวิชาชีพเฉพาะ เพื่อนบางคนรักงานนี้มากชนิดที่ร้องไห้เมื่อรู้ว่าถูกเลิกจ้าง

ทั้งนี้ ประชาไทได้ติดต่อไปยังบริษัทรถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด