กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการขึ้นทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ จำนวน 626,027 คน ให้สามารถใช้สิทธิขั้นพื้นฐานรักษาพยาบาลได้ฟรี โดยแสดงเพียงบัตรประจำตัวที่กระทรวงมหาดไทยออกให้
1 ต.ค. 2558 สุรพงษ์ กองจันทึก กรรมการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 23 มีนาคม 2553 กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร กระทรวงมหาดไทย จำนวน 626,027 คน เรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งเป็นกลุ่มตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 23 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดิม จำนวน 465,992 คน และกลุ่มตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 20 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ จำนวน 160,035 คน
สุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นชนกลุ่มน้อย และบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนที่เกิดหรืออยู่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว ผ่านการจัดทำทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติและตรวจสอบการอาศัยอยู่จริงในประเทศไทย รวมถึงลูกที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติในการให้บริการสาธารณสุข เนื่องจากไม่สามารถใช้บริการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดเลข 13 หลักและจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนไว้ให้ คนเหล่านี้สามารถใช้บัตรประจำตัวแสดงที่โรงพยาบาลเพื่อขอใช้สิทธิได้ทันที เนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2559 จำนวน 1,279,152,900 บาทไว้ให้แล้ว ซึ่งเฉลี่ย 2,043.29 บาท /คน
ส่วนคนที่ตกหล่นไม่มีชื่อในฐานข้อมูล จะให้หน่วยงานบริการส่งข้อมูลเอกสารมาให้กลุ่มประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบและลงทะเบียนต่อไป แต่หากเป็นบุตรแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานข้ามชาติหรือผู้ติดตามแรงงานข้ามชาติ สามารถซื้อประกันสุขภาพในราคา 365 บาท ต่อปี ได้ที่สถานบริการ
อย่างไรก็ตาม กรณีกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษาที่ไม่มีเลขประจำตัว 13 หลัก จำนวนประมาณ 70,000 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขจะหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ตัวตน ตัวเลข และสถานะในปัจจุบันที่ชัดเจน ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอการสนับสนุนในการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขต่อไป