16 ก.ย. 2558 ความคืบหน้าคดี สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ‘บก.ลายจุด’ ถูกฟ้องว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 08.30 น. ศาลทหารมีนัดสืบพยานโจทก์คือ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผู้ช่วยเจ้าพนักงานผู้ตรวจค้นและพบตัว สมบัติ บุญงามอนงค์ โดยนัดนี้ทนายจำเลยถามค้านต่อจากนัดที่แล้ววันที่ 24 ส.ค. 2558 ศาลออกนั่งพิจารณาคดีเวลาประมาณ 09.30 น. โดยศาลสั่งห้ามจดบันทึกคำเบิกความพยาน

พยานโจทก์ตอบคำถามค้านทนายจำเลยว่าตนทราบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว 2557 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2557 ซึ่งประกาศใช้ภายหลังการรัฐประหารเป็นเวลากว่า 2 เดือน

ตามปกติในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งออกภายหลังการทำรัฐประหารจะบัญญัตินิรโทษกรรมให้กับให้ผู้กระทำการเกี่ยวกับการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดินพ้นความรับผิดโดยสิ้นเชิง และได้บัญญัติไว้ในรธน.ฉบับชั่วคราว มาตรา 48 ให้ประกาศหรือคำสั่งของ คสช.หรือ หัวหน้า คสช. เป็นประกาศหรือคำสั่งที่ชอบด้วยรธน.

โดยก่อนที่จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้มีประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจและการทำรัฐประหารออกมาแสดงความคิดเห็นต่อต้านคำสั่งหรือประกาศของ คสช. โดยสงบและสันติวิธี

เท่าที่พยานทราบก่อนเกิดเหตุจำเลยเคยไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองสังคม แต่ก็ไม่มีการแสดงออกถึงการนิยมใช้ความรุนแรงหรือทำให้บ้านเมืองเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย เพียงแต่อาจทำให้มีการรวมตัวกันของบุคคลแต่ไม่มีการใช้กำลัง

ทนายจำเลยให้พยานโจทก์ดูเอกสารที่โจทก์กล่าวอ้างพยานยืนยันว่า ถ้อยคำที่ปรากฏในเอกสารบันทึกภาพหน้าจอจากเฟซบุ๊กของจำเลยเป็นถ้อยคำที่สุภาพ ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้เกิดความรุนแรง และความหมายของข้อความดังกล่าวยังไม่กระทบต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพียงแต่ทำให้คนที่มีความเห็นตรงกันมารวมตัวกันเท่านั้น

ทนายถามพยานว่าทราบประวัติของนายสมบัติหรือไม่ พยานเบิกความว่าตนทราบว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์จำเลย เป็นบุคคลที่ทำงานเพื่อสังคมเกี่ยวกับกิจกรรมทางสังคมที่มูลนิธิกระจกเงา ทำเกี่ยวกับคนไร้รัฐ คนไร้สัญชาติ

ภายหลังทนายจำเลยถามค้านเสร็จสิ้นอัยการโจทก์ได้ถามติงถึงประเด็นการจับกุมสมบัติ พยานตอบว่าเหตุที่เข้าไปตรวจค้นบ้านที่จังหวัดชลบุรีโดยไม่มีหมายค้นนั้น เนื่องจากเป็นการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารใช้อำนาจตามประกาศกฎอัยการศึก ส่วนพยานโจทก์กับพวกที่เข้าร่วมตรวจค้นด้วยเป็นเพียงแต่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานเท่านั้น