Skip to main content
sharethis

สุเทพ เทือกสุบรรณ แถลงสนับสนุนให้รับร่างรัฐธรรมนูญฯ เพื่อให้การปฏิรูปต่อเนื่องสมเจตนารมณ์ กปปส. ส่วนเนื้อหาเรื่อง "คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ" ก็จำเป็นเพราะ กปปส. เคยเจอวิกฤตเสียเลือดเนื้อมาแล้ว พร้อมยืนยันร่าง รธน. นี้เหมาะกับสถานการณ์เมืองไทย เสื้อผ้าฝรั่งบางทีก็ดูไม่หล่อ - ส่วนความบกพร่องในเนื้อหาเป็นเรื่องธรรมดา วันข้างหน้าแก้ไขได้

สุเทพ เทือกสุบรรณ แถลงข่าววันนี้ (1 ก.ย.) โดยแสดงจุดยืนสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมีการลงมติในที่ประชุม สปช. (ที่มาของภาพ: มติชนออนไลน์)

1 ก.ย. 2558 - สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ได้แถลงจุดยืนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าสิ่งที่เขากำลงจะกล่าวเป็นความเห็นของมวลมหาประชาชนด้วยชีวิตและจิตวิญญาณและสำนึกที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ไม่มีแนวคิดที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อมาช่วงชิงอำนาจทางการเมืองกับใครทั้งสิ้น

โดยเขายืนยันว่าเขาไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว และไม่คิดจะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทย หรือพรรคใดๆ ทั้งสิ้น เขายืนยันว่าเขาไม่ใช่คูแข่งทางการเมืองของพรรคการเมืองกลุ่มไหนทั้งสิ้น

มุมมองของมวลมหาประชาชนมองรัฐธรรมนูญในแง่ที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เปิดโอกาสให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการปฏิรูปประเทศไทยเกิดขึ้นได้หรือไม่ โดยเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนคือต้องปฏิรูปประเทศไทย

"เมื่อมองจากมุมนี้ มวลมหาประชาชน เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีพอที่จะทำประเทศประชาชนลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีพอที่จะนำเสนอให้ประชาชนลงประชามติ คนที่จะตัดสินใจคือพี่น้องประชาชนทั้งประเทศในการทำประชามติ"

สุเทพกล่าวว่าสำหรับมวลมหาประชาชนเราเรียกร้องแสดงเจตนารมณ์มาโดยตลอดชัดเจนว่าต้องปฏิรูปประเทศไทย บางเรื่องต้องทำทันที ต้องทำเดี๋ยวนี้ ทำก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง บางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา ทำเดี๋ยวนี้อาจจะไม่เสร็จ จะต้องทำต่อเนื่องไป ความต่อเนื่องนี่แหละที่เป็นหัวใจสำคัญที่เรามวลมหาประชาชนทั้งหลายคาดหวังตั้งใจเอาไว้ ทำอย่างไรถึงจะให้กระบวนการปฏิรูปประเทศไทยดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประเทศของเรามีความมั่นคงมีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน

เมื่อมวลมหาประชาชนออกมาเรียกร้องการปฏิรูปเราได้แสดงเจตนารมณ์ต้องปฏิรูปประเทศไทย 5 ด้านด้วยกัน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายในประเทศไทยต้องร่วมมือกันทำ คือการปฏิรูปการเมือง เราได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ถ้าปล่อยให้สภาพการเมืองเป็นไปอย่างในอดีต ประเทศเราก็จะมีวิกฤตไม่สิ้นสุด ประเทศจะเสียหายล้มละลายได้ เรื่องนี้ต้องทำทันที และต้องทำก่อนเลือกตั้ง

ในส่วนที่ปฏิรูปการเมืองต้องปฏิรูปพรรคการเมืองให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ไม่ต้องการเห็นพรรคกาเรมืองเป็นของนายทุน ของกลุ่มผลประโยชน์ ของคนที่เข้ามาสู่การเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

เราต้องการให้มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง กระบวนการในการเลือกตั้งทั้งหลาย ทั้งเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการเอกตั้งและองค์กรที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้ง เจตนารมณ์ของเรายืนยันว่าการเลือกตั้งในประเทศเราต้องบริสุทธิ์ ยุติธรรม ต้องไม่เปิดโอกาสให้ใครมาบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจอิทธิพลต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโกงการเลือกตั้ง การซื้อคะแนนเสียงเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเป็นพฤติกรรมของการเลือกตั้งที่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่มาเลือกตั้งถูกบิดเบือน

“ขอความกรุณาอย่าพูดแทนประชาชนว่า โปรดอย่าอธิบายกับเราว่าไม่สามารถทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างที่เราเรียกร้อง เรายืนยันว่าการเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม คนที่มีหน้าที่ต้องดูแลและต้องทำก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะถึง”

เรื่องต่อมา ระบบราชการและการกระจายอำนาจเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดิน

อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องการปฏิรูปโครงสร้างระบบที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ และสังคม ทั้งการสาธารณสุขและการศึกษา เป้าหมายสำคัญก็คือเพื่อที่จะแก้ปัญหาคนจน แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

ประการสุดท้ายที่ประชาชนเรียกร้องคือต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ เราประชาชนต้องการให้ตำรวจในประเทศไทยเป็นตำรวจของประชาชน

เมื่อได้มองจากเรื่องที่ผมได้กราบเรียนไปทั้ง 5 ประเด็นนี้ที่เป็นเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญนี้ดีพอที่จะส่งให้ประชาชนลงประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญนี้มีหลักประกันที่ทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า เมื่อรัฐธรรมนูญนี้ได้ผ่านประชามติมีผลใช้บังคับ การปฏิรูปประเทศไทยก็จะได้ดำเนินการต่อไปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่มวลมหาประชาชนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

การปฏิรูปประเทศต้องทำร่วมกันทุกฝ่ายทั้งฝ่ายประชาชน ราชการและองค์กรต่างๆ สำคัญที่ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีคำตอบให้ประชาชนมั่นใจ มองเห็นภาพว่าใครเป็นเจ้าภาพ และการปฏิรูปนี้ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ชาติ และคนที่จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนคือ"คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดอง (คปป.) ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐต้องทำการปฏิรูปประเทศ ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็น และทำให้เราเชื่อมั่นว่าการปฏิรูปประเทศไทยจะได้ดำเนินการต่อไปได้

สิ่งที่เขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้พูดถึงหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองไว้ชัดเจน ที่สำคัญ มวลมหาประชาชนผ่านวิกฤตมาด้วยความเจ็บปวด เสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิตมาเพื่อแลกกับอนาคตของประเทศไทย และเราเห็นว่าในวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีทางออก ไม่มีคนที่จะมีอำนาจเข้ามาแก้ไข สถานการณ์ที่มีความร้ายแรงรุนแรงถึงขนาดฆ่าประชาชนกลางถนน มวลมหาประชาชนเสียชีวิตไป 25 คน บาดเจ็บนับพันคน ไม่มีใครบริหารบ้านเมืองแล้ว สภาก็ถูกยุบแล้ว เลือกตั้งใหม่ก็ไม่ได้ แต่ก็มีคนไม่ยอมลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีอ้างว่ากฎหมายบังคับให้เป็นอยู่ต่อไป ประเทศไม่มีทางออก จึงต้องมีการยึดอำนาจและปฏิวัติโดย คสช.

สุเทพอ้างว่าตัวบทดังกล่าวมีความสำคัญ ใครไม่เคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่รู้ "คนที่ไม่เคยอยู่ในภาวะวิกฤตขนาดนี้จะคิดไม่ถึงว่ามันร้ายแรง รุนแรง ถึงขนาดนั้น บังเอิญว่าพวกผมอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง วันนี้ผมถึงพอใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ระบุบุคคลหรือองค์กรที่จะรับผิดชอบในการปฏิรูปการเมืองในอนาคต ได้กำหนดทางออกเอาไว้ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ได้มาดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันเหตุร้ายและยับยั้งการกระทำที่เป็นปัญหา ในสายตาของประชาชนจึงยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีพอที่จะส่งให้ประชาชนตัดสินใจ"

ที่สำคัญคือในช่วง 5 ปีแรกของการใช้รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่า หากสถาบันการเมือง คณะรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้อำนาจคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติใช้อำนาจแทนได้ ประชาชนเองก็ศึกษาว่ารัฐธรมนูญก็เขียนไว้ดีพอสมควร ว่าจะใช้อำนาจอย่างนั้นเขาต้องปรึกษาประธานศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุด และต้องรายงานต่อประชาชนและสภา ที่สำคัญคือในระหว่างที่เขาตัดสินใจเข้ามาใช้อำนาจแทนรัฐมนตรี ให้ถือว่าเป็นการเปิดประชุมสมัยสามัญของสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา นั่นหมายความว่าจะมีตัวแทนประชาชนคอยตรวจสอบการใช้อำนาจของคณะกรรมการปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ

มุมมองแบบนี้อาจจะมีคนอื่นเห็นเป็นอย่างอื่น มองเป็นอย่างอื่น นี่ก็เป็นเสรีในทางความคิด แต่ประชาชนก็มองอย่างนี้คิดอย่างนี้และก็เรียกร้องว่าขอโอกาสให้ประชาชนทั้งชาติเป็นผู้ตัดสินใจได้ไหมครับ ให้ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราได้มีโอกาสตัดสินอนาคตของประเทศบ้าง ที่จะทำประชามติและหวังว่าทุกฝ่ายจะได้เคารพมติของประชาชน

ในส่วนของข้อเสียเขาเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้เป็นร่างที่เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศไทย เหมือนที่มีบางคนว่าเราจะเอาเสื้อผ้าของฝรั่งมาบางทีมันดูไม่หล่อ เราต้องตัดตามขนาดคนไทย คือเรามองว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศ ทั้งนี้ความบกพร่องเป็นธรรมดา ไม่สมบูรณ์ วันข้างหน้าก็แก้ไขได้ แต่สาระสำคัญคือการมีหลักประกันว่าอนาคตเห็นแสงสว่าง เห็นการพัฒนา เห็นโอกาสที่ประชาชนจะมั่นคงปลอดภัย และประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น เรามองในมุมการปฏิรูป

สำหรับกรณีที่ฝ่ายการเมืองรณรงค์ให้มีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น สุเทพกล่าวว่า คิดว่าทุกฝ่ายควรเคารพประชาชน โดยให้ประชาชนตัดสินใจ มติประชาชนถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่สุด ส่วนมูลนิธิ ยังไม่ได้คิดในเรื่องการรณรงค์ เพราะประชาชนยังไม่ได้บอกว่าให้ทำอย่างไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net