Skip to main content
sharethis

โฆษก คสช. แถลงยังมีผู้เสียชีวิต 2 รายรอพิสูจน์ ใครเป็นญาติโปรดให้ข้อมูล ส่วนคดีหน่วยข่าวว่าเหตุระเบิดไม่น่าเชื่อมโยงก่อการร้ายสากล - ด้าน ผบ.ตร. ระบุทำกันเป็นขบวนการ มีไม่ต่ำกว่า 10 คน สำรวจเส้นทางเป็นเดือน มีคนไทยเกี่ยวแน่นอน เชื่อผู้ก่อเหตุยังอยู่ในไทยแต่ห่วงถูกตัดตอน พร้อมตั้งรางวัลตุ๊กตุ๊ก 3 หมื่นบาท หากมาให้เบาะแส

20 ส.ค. 2558 - ในการแถลงข่าวสถานการณ์รอบ 24 ชั่วโมง ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อช่วงเที่ยววันนี้ (20 ส.ค.) นั้น พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงความคืบหน้าเหตุระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ โดยยืนยันว่า สถานการณ์โดยภาพรวมกลับเข้าสู่ความเรียบร้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้ง ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ดูแลพื้นที่สำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS นานา ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (19 ส.ค.) เป็นเพียงเหตุการก่อกวน หวังให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกเท่านั้น

เรื่องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต ญาติผู้ที่เสียชีวิต 20 ราย ได้ติดต่อญาติ เพื่อให้มายื่นเอกสารหลักฐานแล้ว 16 ราย โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 9 ราย สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ติดต่อให้มายื่นเอกสารแล้ว 70 ราย และได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือบางส่วนแล้ว สำหรับการรักษาพยาบาล ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ยอดผู้บาดเจ็บช่วงเช้าวันนี้ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 56 ราย ยังคงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 67 ราย สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติของตนเอง เข้าติดต่อ รพ.ตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ในส่วนการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ด้านการสืบสวนคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนและสอบพยานบุคคลแวดล้อม ทั้งในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จึงสามารถนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องสงสัย ตามที่ปรากฏภาพข่าว จนสามารถสรุปในชั้นต้นว่าเหตุดังกล่าวมีการดำเนินการอย่างเป็นขบวนการ ด้านการข่าวหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้รับความร่วมมือจากหน่วยข่าวของมิตรประเทศ ซึ่งมีความเห็นไปทิศทางเดียวกันว่า เหตุดังกล่าวไม่น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการก่อการร้ายสากล และเป้าหมายของกลุ่มก่อเหตุไม่ได้มุ่งกระทำต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยตรง เนื่องจากมีบุคคลสัญชาติอื่นได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

พร้อมกันนี้ คสช. ได้ขอบคุณประชาชน ที่ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความมีน้ำใจและการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เช่น การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ การช่วยเหลือของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง การร่วมบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลต่างๆ และการให้กำลังใจและร่วมไว้อาลัยแก่ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทำให้เห็นว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนไทยและประเทศไทยไม่เคยปล่อยปละละเลยหรือทอดทิ้งคนชาติใดหรือศาสนาใด อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยขอให้แจ้งตำรวจทันที และขอแจ้งให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะเพิ่มระดับการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ และผู้สร้างเหตุก่อกวนจนทำให้สังคมสับสนหรือตื่นตระหนกอย่างจริงจังมากขึ้น

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้ (20 ส.ค.) ระบุว่า ผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ มีการทำเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน เชื่อมีการวางแผนสำรวจเส้นทางนานเป็นเดือนก่อนก่อเหตุ มั่นใจมีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เพราะจากการสืบสวน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุทราบเส้นทางที่ใช้หลบหนีเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้เช่นเดียวกันว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ในกล้องวงจรปิด เป็นคนไทย หรือต่างชาติ เพราะจากการสอบพยาน แม้จะให้การยืนยันว่า หนึ่งในสามผู้ต้องสงสัย ซึ่งใส่เสื้อสีเหลือง และศาลออกหมายจับแล้ว ไม่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกับคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงและใส่เสื้อสีขาว ในกล้องวงจรปิด ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาให้ข้อมูล จึงยังไม่สามารถที่จะระบุได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งประเด็นการสร้างสถานการณ์ การก่อการร้าย แต่ทั้งนี้ ก็ยังมั่นใจว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุยังอยู่ในประเทศไทย และยอมรับว่า เป็นห่วงเรื่องถูกตัดตอนความผิด

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังต้องการให้พยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุวันดังกล่าว เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามผู้ก่อเหตุ ส่วนเหตุที่แยกประสงค์ จะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่บริเวณท่าเรือสาทร หรือไม่ เบื้องต้นพบว่าระเบิดมีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งจะต้องตรวจสอบการจุดชนวนอีกครั้ง

ในรายงานของ วอยซ์ทีวี พล.ต.อ.สมยศ ระบุด้วยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องการให้พยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุวันดังกล่าวเข้ามาให้เบาะแสในการติดตามผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะคนขับตุ๊กตุ๊ก ที่รับผู้ต้องสงสัยมาส่งที่ศาลท้าวมหาพรหม โดยตั้งเงินรางวัล 30,000 บาทให้กับคนขับตุ๊กตุ๊ก หรือใครก็ตามที่เข้ามาให้เบาะแส โดยทางตำรวจจะรับรองความปลอดภัย และปกปิดข้อมูลสำหรับผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูล  หากผู้ใดต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่ พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ติดต่อได้ตลอด 24 ชม.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net