Skip to main content
sharethis

บารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เข้ารายงานตัวตามหมายเรียก ม.116 ฐานสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ยันไม่เสียใจที่ถูกดำเนินคดีร่วมกับ นักศึกษา นักกิจกรรมทั้ง 14 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไม่ฝากขัง

5 ส.ค. 2558 บารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน และ กรรมการองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พร้อมแกนนำชาวบ้านจาก สมัชชาคนจน และกลุ่มเพื่อนประมาณ 50 คน รวมทั้งขบวนการประชาธิปไตยใหม่ อาทิ รังสิมันต์ โรม และชลธิชา แจ้งเร็ว ได้เดินทางมาที่ สน สำราญราษฎร์ เพื่อรับข้อหาตามหมายเรียก จากเจ้าพนักงานเจ้าของคดี โดยคาดว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24-26 มิ.ย. 2558 น.จากกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องประชาธิปไตย ของขบวนประชาธิปไตยใหม่ โดยหมายเรียกได้ออกจาก สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 3  ก.ค. 2558 โดยส่งเป็นจดหมายทางไปรษณีย์มาที่บ้านพัก ผู้กล่าวหาคือ พ.ท.พงศฤทธิ์ ภวังค์คะนันท์ ผบ.พัน.ร.ศสร. โดยต้องไปรายงานตัวกับ พ.ต.ท.มานิตย์ ทองขาว พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.สำราญราษฎร์ ในวันที่ 10 ก.ค. 2558 เวลา 09.00 น.

บารมี ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตาม กฎหมายอาญามาตรา 116 “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ” โดยร่วมกับ 14 นักศึกษา นักกิจกรรม มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมและให้ที่อาศัยกับ กลุ่มนักศึกษาและนักกิจกรรมในการรณรงค์ดังกล่าว

ขณะเดียวกัน สมัชชาคนจน ได้แถลงให้รัฐบาลยุติการดำเนินคดีกับ บารมี ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน 14นักศึกษา นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และคนจนผู้ปกป้องสิทธิ นอกจากนั้นยังมีข้อเรียกร้องให้ รัฐบาลทหารยุติการใช้กำลังและ กฎหมายไม่เป็นธรรมต่อคนจน โดยให้ใช้แนวทางสันติวิธี และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. คืนอำนาจให้กับประชาชนโดยทันทีไม่มีเงื่อนไข

 

 

เวลา 10.05 น. บารมี และ พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้าพบเจ้าพนักงานเจ้าของคดี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งดำเนินคดี  ทั้งนี้ก่อนเข้ารายงานตัว บารมีกล่าวปราศัยกับผู้มาให้กำลังใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยส่วนตัวแล้วตัวเองเห็นด้วยกับกิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่  และไม่รู้สึกเสียใจเมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีร่วมกับคนกลุ่มนี้

"ผมว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรม และการกระทำเช่นนี้ก็เป็นสิ่งไม่มีเหตุผล เป็นการละเมิดเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว" บารมีกล่าว

ต่อมาเวลา 11.20 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติผู้ต้องหาแล้วเสร็จ ด้าน น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความ กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่านายบารมีได้มารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก จึงได้ไม่ทำการควบคุมตัวหรือขออำนาจศาลฝากฝากขังและทนายความจะทำบันทึกคำให้การเพิ่มเติมส่งให้พนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันและจะมีการประสานนัดหมายกับ เจ้าพนักงานสอบสวนอีกที

ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นการสอบสวน ได้มีการจัดกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญให้บารมีที่ด้านหน้าสถานีตำรวจ โดย พตอ.พิพัฒน์ บุญเพชร์ ผู้กำกับ สน.สำราญราษฎร์ ได้เข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญให้นายบารมี ชัยรัตน์ด้วย

ด้านรูเพิร์ต แอ็บบอต (Rupert Abbott) ผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นกังวลอย่างยิ่งต่อกรณีที่นายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจนและกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่ว่าด้วยการขัดขืนอำนาจปกครอง โดยทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้แสดงความกังวลในกรณีนี้ไปกับทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยด้วย เพราะข้อหาดังกล่าวถือเป็นความพยายามอย่างชัดเจนในการขัดขวางการแสดงออกอย่างสงบของผู้ที่มีความเห็นต่าง ซึ่งขัดต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นข้อหาดังกล่าวจะต้องถูกยกเลิกโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งสำนวนคดีดังกล่าวต้องถูกปิดเป็นการถาวร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net