Skip to main content
sharethis

ผลจากฝนตกหนักตลอดทั้งเดือนและพายุไซโคลน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำ 5 สายของพม่าได้แก่ อิระวดี ชินด์วิน สาละวิน สะโตง งาหวุ่น อยู่ในระดับวิกฤต เอ่อล้นตลิ่งหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังเกิดดินถล่มในรัฐชิน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ขณะที่ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ประกาศให้รัฐชิน ยะไข่ ภาคสะกาย มะกเว เป็นพื้นที่ประสบภัย

ภาพจากหนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ฉบับวันที่ 1 ส.ค. 2558 ระบุว่าผู้ประสบภัยน้ำท่วมอพยพไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์ที่อำเภอพวินบยู ภาคมะกเว

1 ส.ค. 2558 - พายุไซโคลนโกเมนซึ่งขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงแล้วนั้น ได้พาดผ่านจิตตะกอง ของบังกลาเทศ เข้าสู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพม่าเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (30 ก.ค.) มีผลทำให้เกิดฝนตกหนัก รวมทั้งลมพายุที่มีความเร็วลมกว่า 128 กม. ต่อชั่วโมง

โดยหนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ของรัฐบาลพม่า ฉบับวันที่ 1 ส.ค. ลงคำประกาศของประธานาธิบดีเต็ง เส่งของพม่า ที่ระบุว่า รัฐชิน รัฐยะไข่ รวมทั้งภาคสะกาย ภาคมะกเว เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วม และเผชิญความยากลำบากที่จะฟื้นฟูเข้าสู่สภาพปกติ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการรับมือภัยพิบัติแห่งชาติ ได้จัดให้มีการอพยพและโยกย้ายประชากรในภาคอิระวดี ภาคพะโค รวมถึงรัฐมอญ และรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งประสบอุทกภัยเช่นกัน ทั้งนี้ฝนตกหนักในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมได้ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มหลายพื้นที่ของพม่า

นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ยังรายงานข่าวการแจ้งเตือนโดยกรมอุตุนิยมวิทยาพม่า ระบุว่าระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักได้แก่ อิระวดี ชินด์วิน สาละวิน สะโตง และงาหวุ่น เพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะเอ่อล้นระดับวิกฤตภายใน 3 วัน ทั้งนี้แม่น้ำอิระวดี ช่วงที่ไหลผ่านภาคอิระวดีที่อำเภอฮิงทาดา เมื่อวันศุกร์ที่ 31 ก.ค. เวลา 12.30 น. ระดับน้ำได้ล้นระดับวิกฤตมา 10 เซนติเมตร ขณะที่แม่น้ำอิระวดี ช่วงที่ไหลผ่านเมืองสะกาย ภาคสะกาย ระดับอยู่ห่างจากระดับวิกฤตอีก 71 เซนติเมตร โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะถึงระดับวิกฤตในอีก 2 วันข้างหน้า

ขณะที่แม่น้ำชินด์วินที่เมืองกะเลวะ ภาคสะกาย จะยังคงล้นตลิ่งต่อไปในอีก 3 วัน ทั้งนี้ระดับน้ำเลยจุดวิกฤตมาแล้ว 143 เซนติเมตรตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ที่ 31 ก.ค. ขณะที่แม่น้ำสาละวินที่เมืองผาอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ระดับน้ำได้เลยจุดวิกฤตมาแล้ว และจะเอ่อท่วมต่อไปอีก 3 วัน

เช่นเดียวกับที่แม่น้ำสะโตง และแม่น้ำงาหวุ่น มีแนวโน้มที่จะล้นตลิ่งในอีก 3 วันข้างหน้า โดยระดับน้ำในแม่น้ำสะโตง ที่อำเภอมะเดาก์ ภาคพะโค ล้นจุดเฝ้าระวังมาแล้ว 115 เซนติเมตร ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำงาหวุ่น ที่งาเทงเชาก์ ภาคอิระวดี ล้นจุดเฝ้าระวังมาแล้ว 57 เซนติเมตร

โดยกรมอุตุนิยมวิทยาพม่า ได้แจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักที่ภาคมะกเว ภาคสะกาย, ภาคพะโค, ภาคตะนาวศรี และภาคย่างกุ้ง รวมทั้งรัฐยะไข่ รัฐชิน เนื่องจากพายุที่พัดผ่านประเทศบังกลาเทศในเวลานี้

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและชลประทานพม่า ระบุว่า มีพื้นที่เกษตรกรรมทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 5.23 แสนเอเคอร์ หรือ 1.32 ล้านไร่ ในจำนวนนี้มีพื้นที่ราว 1.22 แสนเอเคอร์ หรือ 3.08 แสนไร่ ที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว และเตรียมที่จะเพาะปลูกในพื้นที่ซึ่งได้รับการฟื้นฟูในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ในรายงานของ เว็บไซต์อิระวดี ระบุด้วยว่า ฝนที่ตกหนักได้ทำให้เกิดดินถล่มที่เมืองฮากา เมืองหลวงของรัฐชิน ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ดินถล่มยังปิดกั้นถนนที่จะเข้ามาในเมืองซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 6,000 ฟุตแห่งนี้ จนเกรงว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนอาหารในพื้นที่รัฐชิน โดยอิระวดีอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ซึ่งประเมินว่ามีบ้านเรือนอย่างน้อย 100 หลังที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากไปอาศัยชั่วคราวในบ้านของญาติ ขณะที่มีประชาชน 150 คนจาก 33 หลังคาเรือนไปอาศัยพักพิงอยู่ในศาลาว่าการเมือง

ทั้งนี้จากข้อมูลเมื่อวันที่ 30 ก.ค.สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้อ้างสถิติของรัฐบาลพม่าระบุว่ามีประชาชนกว่า 110,000 คนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพม่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 ราย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net