Skip to main content
sharethis


28 ก.ค.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ไม่ควรกังวลกับกรณีที่สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2558 โดยจัดให้ประเทศไทยยังคงอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 (Tier 3) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีสถานการณ์ค้ามนุษย์ระดับเลวร้ายที่สุด 

ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ในตอนสายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล หลังสหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons (TIP) Report) ประจำปี 2558 โดยยังคงอันดับประเทศไทยไว้ ที่กลุ่ม 3 (Tier3) ว่า ไม่มีท่าทีอะไร และกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกติกาสากล และจะยังคงทำงานแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อไป โดยมีการแก้ในทุกมิติ ทั้งเรื่องการให้มีกฎหมายครบถ้วน เรื่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ การลงโทษเจ้าหน้าที่ มีการจดทะเบียนแรงงาน พิสูจน์สัญชาติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเห็นความตั้งใจและความพยายามในการแก้ปัญหาของไทย และคาดหวังว่าน่าจะดีขึ้นในโอกาสหน้า และกล่าวด้วยว่า ไม่ควรไปกังวลต่อเรื่องดังกล่าว ทุกวันนี้สิ่งที่รัฐบาลแก้ไขก็เพื่อให้การประมงของไทยถูกกฎหมาย จะได้ไม่เป็นคดีความต่อประเทศอื่นๆ ดังเช่นที่ผ่านมา และทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมในการทำประมง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กล่าวด้วยว่า นอกจากไทยต้องปฏิบัติตามพันธะสัญญากับต่างประเทศแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ได้นานที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรทางประมง เนื่องจากสัตว์น้ำถูกจับมากเกินไป และมี การใช้อุปกรณ์การประมงที่ผิดกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ควรเป็นกำลังใจให้กันมากกว่าจะมากดดันกันเอง ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

ทางด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัติวินัย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยทำอย่างดีที่สุดแล้ว และมีมาตรการมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่เมื่อผู้ที่กำหนดกติกาให้มีผลออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องว่าไปตามนั้น อย่าได้กังวล หรือวิตกจนเกินไป

นายดอน กล่าวว่า ผลงานการแก้ปัญหาของไทยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน อาจจะยังออกมาไม่ชัดเท่าที่ควร แต่หลังจากนั้น ก็เร่งการทำงานอย่างเต็มที่ มีการกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการออกกฎหมายจัดระเบียบเรือประมง ดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก  และเชื่อว่าจะช่วยให้ไทยหลุดออกจากบัญชีกลุ่มที่ 3 ได้ในปีต่อไป

นายดอน ระบุว่า การที่ไทยติดอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 จะไม่ส่งผลให้เกิดมาตรการกดดันทางการค้า การลงทุน หรือการส่งออก และไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ทั้งทางการทูต การฝึกคอบบร้าโกล์ด และหากจะมีผลกระทบ ก็เป็นเพียงความร่วมมือทางวิชาการเท่านั้น

นายดอน ยืนยันว่า การติดในบัญชีกลุ่มที่ 3 ของรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา เป็นคนละปัญหากับการที่สหภาพยุโรป (EU) ให้ใบเหลืองไทยในกรณีการทำประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม (IUU) เพียงแต่ที่ผ่านมามี เอ็นจีโอในต่างประเทศพยายามนำทั้งสองประเด็นมาเชื่อมโยง

ทางด้านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของไทย เผยแพร่ท่าทีประเทศไทยต่อการประกาศผลการจัดอันดับประเทศไทยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ว่า ไม่สะท้อนความพยายามและความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยที่เกิดขึ้นจริงในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งมีก้าวหน้าอย่างมากในหลายด้าน โดยระบุว่า

“ตั้งแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 รัฐบาลได้ “ปฏิรูป” การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบส่งผลให้เกิดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในทุกๆ ด้าน เช่น (1) ด้านนโยบาย รัฐบาลได้ประกาศย้ำให้การต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติและจัดตั้งกลไกระดับชาติซึ่งมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาร่วมขับเคลื่อน มีการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (2) ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มีการทลายเครือข่ายผู้กระทำผิดค้ามนุษย์รายสำคัญ มีการจับกุม ดำเนินคดีและลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ (3) ด้านการป้องกัน มีการแก้ไขและจัดระเบียบแรงงานในภาคประมง รวมถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวจำนวนกว่า 1.6 ล้านคนให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเช่นเดียวกับคนไทย และแก้ปัญหาที่ต้นทางโดยลดความเสี่ยงที่แรงงานเหล่านี้จะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และการถูกเอาเปรียบ  (4) ด้านการคุ้มครอง การเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกและการดูแลคุ้มครองผู้เสียหาย (5) ด้านความร่วมมือและการสร้างความเป็นหุ้นส่วน ประเทศไทยได้มีบทบาทนำทั้งในกรอบทวิภาคีและภูมิภาคในการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนและความมั่นคง”

ในตอนท้ายของเอกสารแสดงท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างจริงจังต่อไป เพื่อความมั่นคงและมนุษยธรรม พร้อมกับเพิ่มพูนความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ตลอดจนขยายความร่วมมือกับประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่อไป

 

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์, สำนักข่าวไทย



 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net