Skip to main content
sharethis

27 ก.ค. 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา  เจ้าหน้าที่ของรัฐสตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์  ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านรองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอรมน.ภาค 4 สน.) เข้าเยี่ยมพระ ที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ความรุนแรง

โดยแถลงการณ์ของ กสม. ระบุแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่เสียชีวิต  ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ  รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว  ตลอดจนมีความห่วงใยในสวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่  25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า  ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1  นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ  ประชาชน จำนวน  5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าว

แถลงการณ์ยังสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว  อีกทั้งขอวิงวอนผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนาและขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันเพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย

10.30 น. วันเดียวกัน ที่ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พันเอก ชุมพล  แก้วล้วน รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของพระพยอม  ฐานวุฑโฒ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ขณะออกบิณฑบาตในพื้นที่เทศบาลตำบล    ตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 1 รูป มรณภาพ 1 รูป เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ บาดเจ็บ 2 นาย เสียชีวิต 1 นาย และชาวบ้าน 3 ราย

ทั้งนี้ พันเอก ชุมพล  แก้วล้วน รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ สำหรับอาการของพระพยอม  ฐานวุฑโฒ ที่ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณหน้าท้องและต้นคอ โดยแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดจนปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด


อ่านแถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อ พระภิกษุ นักบวช ผู้นำศาสนา  เจ้าหน้าที่ของรัฐ
สตรี ผู้สูงอายุ และประชาชนผู้บริสุทธิ์  ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่  25 กรกฎาคม 2558 กรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์บริเวณตลาดเก่า ถนนริมแม่น้ำสายบุรี หลัง สภ.สายบุรี เขตเทศบาล ตำบลตะลูบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ขณะออกบิณฑบาตตามปกติทุกวันในตอนเช้า  ทหารผู้กล้าเสียชีวิตจำนวน 1  นาย ซึ่งเป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร ผู้สูงอายุ  ประชาชน จำนวน  5 ราย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่เสียชีวิต  ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ  รวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว  ตลอดจนมีความห่วงใยในสวัสดิภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

กสม. ขอยืนยันว่าหลักการสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม ไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดต่อชีวิตผู้อื่นได้ ไม่ว่ากรณีใด และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ  ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด  และขัดต่อหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ  อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นในขณะที่พระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตตามหลักทางศาสนา โดยผู้ที่เสียชีวิตเป็นพระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเป็นผู้บริสุทธิ์

กสม. ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย อันจะละเมิดมิได้  และเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
               1. กสม. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทหาร ตำรวจ  ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

            2. ขอให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่จะร่วมมือกันดูแลระมัดระวัง และรักษาความปลอดภัย รวมถึงต้องขอชื่นชมหน่วยงานความมั่นคงที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวด รัดกุมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรี ผู้เป็นตัวแทนของศาสนา และประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการปกป้อง และคุ้มครอง  ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข  ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และทำให้ความสงบสุขในพื้นที่กลับคืนมา
            3. รัฐบาล  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว  และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ
          4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ความเสียหาย  ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว  ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งจะดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ขอสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ ด้านให้กลับคืนมา พร้อมเร่งเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว  อีกทั้งขอวิงวอนผู้ที่หลงผิดให้ยุติการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้เป็นตัวแทนของศาสนาและขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันเพื่อนำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทย


                                                                                    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                                                                                                     27 กรกฎาคม   2558 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net