Skip to main content
sharethis

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว. ยุติธรม เผยหลังพบทูตฝรั่งเศส ระบุทำความเข้าใจกับทูตและมอบผู้ต้องหาคดี ม. 112 ที่พำนักอยู่ในฝรั่งเศสให้ ขณะที่ทูตฝรั่งเศสขอให้ยกเลิกโทษประหาร แต่ชี้แจงไปว่าทัศนคติของสังคมไทยยังฝังใจ ไม่พร้อมยกเลิก

เว็บไซต์มติชนรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายตีแยรี วีโต้ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายลุค สเปย์บรูค กงศุลฝรั่งเศส เดินทางเข้าพบพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อหารือร่วมกัน

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการหารือกับนายตีแยรี ในเรื่องของทุนการศึกษาด้านกฎหมายที่ทางการฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุน ซึ่งเป็นทุนการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและการฝึกอบรมต่างๆ พร้อมหารือในเรื่องของหนังสือเดินทางของชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาอยู่ในประเทศไทยและได้กระทำความผิดทางกฎหมายเนื่องจากเกรงว่าเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว จะมีการนำหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาไปใช้ในการก่อเหตุซ้ำ ทางฝรั่งเศสจึงอยากให้ทางการไทยส่งหนังสือเดินทางของบุคคลดังกล่าวกลับไปยังประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าในข้อกฎหมายของประเทศไทย สามารถทำได้หรือไม่ รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประสานให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยตรวจสอบข้อมูลด้วย

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางฝรั่งเศสยังได้เรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกโทษประหารชีวิต ซึ่งก็ได้อธิบายชี้แจงเรื่องทัศนคติของคนไทย และบริบทของสังคมให้ทราบ โดยยกกรณีฆ่าข่มขืนเด็กนักเรียนบนรถไฟ ซึ่งประชาชนได้มีการรณรงค์ให้ประหารชีวิต ซึ่งคนไทยยังฝังใจและมีทัศนคติเรื่องการประหารชีวิต จึงยังไม่สามารถเลิกได้ แต่ทัศนคติของรัฐบาลและเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศไม่ได้ขัดข้องหรือปฏิเสธ แต่ต้องรอให้ทัศนคติของคนไทยมีความพร้อมและเข้าใจมากกว่านี้ ซึ่งนายตีแยรีก็ได้เข้าใจเรื่องดังกล่าว และในร่างสิทธิมนุษยชนก็มีแนวโน้มที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตอยู่แล้วและไม่ได้ขัดข้อง เพื่อรองรับการทำพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสก็เคยเจอปัญหานี้มาแล้ว ภายหลังได้ยกเลิกการประหารชีวิต จึงได้ให้กำลังรัฐบาลไทย นอกจากนี้ ในเรื่องของการที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ กลับไปยังประเทศไทย เราไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 กับทางการฝรั่งเศสด้วย โดยตนได้มอบเอกสารหลักฐาน รวมถึงพฤติกรรม และรายชื่อของผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ที่มีความผิดในมาตรา 112 ที่หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศส โดยได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับนายตีแยรี เกี่ยวกับคดีความมั่นคงด้านการเมืองกับความมั่นคงด้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้อธิบายเป็นรายบุคคลว่าบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ และใครที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งในส่วนของการเมืองนั้นไม่ติดใจ จึงอยากให้รัฐบาลฝรั่งเศสได้รับทราบและแก้ไขไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ทั้งนี้ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ดีเอสไอ ตนจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเกี่ยวกับคดีมาตรา 112

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่รัฐบาลจะเชิญให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกรายการโทรทัศน์ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนยังไม่ทราบในเรื่องของรายละเอียดที่แน่ชัด เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่กระทรวงยุติธรรมเป็นคนเสนอ แต่เท่าที่ทราบได้มีการเชิญ และได้รับรู้จากสื่อว่านายอภิสิทธิ์ยินดีรับข้อเสนอดังกล่าว แต่ในเรื่องว่าจะตกลงกันหรือไม่อย่างไร และนัดหมายวันไหนนั้นตนไม่ทราบ ทั้งนี้ เชื่อว่า หากเกิดขึ้นได้จริง ก็จะทำให้เราเห็นภาพหนึ่งว่าประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าไปสู่ความปรองดองได้ แต่การพบกันทั้งสองคนนั้น ก็ไม่ใช่เหตุผลของทุกอย่าง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net