Skip to main content
sharethis

สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานกรณีไทยส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนให้กับรัฐบาลจีน โดยภาพข่าวปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ถูกส่งตัวกลับ ทั้งกล่าวหาว่าบางคนมีประวัติอาชญากรรมและเชื่อมโยงกับขบวนการก่อการราย

เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เฟซบุ๊กเพจของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CCTV) โดยระบุว่าพวกเขาอยู่ระหว่างการเดินทางต่อไปยังตุรกี โดยกล่าวหาว่าบางส่วนของผู้หลบหนีเข้าเมืองไทยมีแผนที่จะข้ามพรมแดนตุรกีไปยังซีเรียเพื่อเดินทางต่อไปยังอิรักเพื่อจะเข้าร่วมสร้างปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาค

CCTV ยังรายงานโดยอ้างว่า จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนพบว่า2 ใน 109 คนมีประวัติอาชญากรรม ขณะที่อีก 13 คนมีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย

สำนักของของรัฐบาลจีนแห่งนี้ยังอ้างด้วยว่า หนึ่งในผู้ถูกส่งตัวกลับเหล่านี้ได้รับข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อจากขบวนการมุสลิมตุรกีตะวันออก

CCTV ระบุว่า กลุ่มผู้หลบหนีออกนอกประเทศนี้จะมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม กัมพูชาและลาว และหลายคนไปสิ้นสุดการเดินทางที่ซีเรีย

ทั้งนี้ภาพข่าวของ CCTV มีการแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนใช้ถุงดำคลุมศีรษะของชาวอุยกูร์ขณะที่นำตัวพวกเขาลงจากเครื่องบิน และยังมีภาพเหตุการณ์คล้ายการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ถูกส่งตัวกลับ ของทางการจีน รายงานกรณีไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ซึ่งเป็นชายทั้งหมดจำนวน 109 คนให้กับรัฐบาลจีน โดยภาพข่าวปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ถูกส่งตัวกลับ ทั้งกล่าวหาว่าบางคนมีประวัติอาชญากรรมและเชื่อมโยงกับขบวนการก่อการร้าย

 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่รัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนให้กับรัฐบาลจีนครั้งนี้ ถูกวิพากษ์และประรามจากประชาคมนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศจำนวนมาก

ซึ่งข้อห่วงกังวลของประชาคมนานาชาติคือ ชาวอุยกูร์ที่ถูกผลักดันกลับโดยไม่สมัครใจกลุ่มนี้เผชิญความเสี่ยงอย่างสูงที่จะถูกทรมาน ซึ่งเป็นการละเมิดหลักการห้ามผลักดันกลับโดยไม่สมัครใจ (non-refoulement principle) ซึ่งรับรองไว้ในมาตรา 3 ของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก การส่งชาวอุยกูร์กลุ่มนี้กลับไปประเทศจีนทำให้ประเทศไทยละเมิดต่อพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่ออกมาแสดงข้อกังวลและตำหนิว่าประเทศไทยละเมิดหลักการพื้นฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการผลักดันกลับ มี สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา รัฐบาลตุรกี องค์กรเอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล และองค์กรฮิวแมนไรท์วอชท์ เป็นต้น

ด้านโฆษกประจำข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการที่ทางการไทยผลักดันบุคคลอย่างน้อย 100 คน รวมทั้งผู้หญิง 20 คน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีนโดยไม่สมัครใจ ชาวอุยกูร์จำนวน 100 คนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชาวอุยกูร์มากกว่า 350 คน ที่ถูกควบคุมตัวในสภาพที่ย่ำแย่ในสถานที่คุมขังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในหลายแห่งในประเทศ ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2557 เมื่อชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ถูกจับกุมหลังจากออกจากประเทศจีนเพื่อเดินทางไปยังประเทศตุรกี แม้ประเทศตุรกีจะแสดงความเต็มใจที่จะรับชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ไว้ในประเทศของตน แต่มีเพียง 172 คนจากกว่า 350 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปยังประเทศตุรกีเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และยังมีชาวอุยกูร์อีกประมาณ 60 คนถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net