Skip to main content
sharethis

มีรายงานว่า ไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ 97 คนกลับจีน ในขณะที่สถานกงสุลไทยในตุรกีถูกบุก หลังชาวอุยกูร์ไม่พอใจกับการส่งตัวไปจีนของรัฐบาลไทย ขณะที่ UNHCR แถลงเรียกร้องให้ไทยเคารพพันธะกรณีระหว่างประเทศและอย่าทำเช่นนี้อีก

9 ก.ค. 58 ฮิวแมนไรท์วอทช์ รายงานว่า มีรายงานว่า ทางการไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์ หรือชาวเติร์ก ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมซึ่งอยู่ทางตกวันตกเฉียงเหนือของจีน จำนวน 97 คน ซึ่งประกอบด้วยเด็กและผู้หญิง กลับไปยังประเทศจีน ทางเครื่องบินทางท่าอากาศยานดอนเมือง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. สำนักข่าวเอเอฟพี รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวชาวอุยกูร์ซึ่งอาศัยอยู่ในตุรกีว่า ชาวอุยกูร์จำนวน 173 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ได้เดินทางจากประเทศไทย มาถึงประเทศตุรกี ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาถูกจับและกักขังในประเทศไทยเพราะหลบหนีเข้าเมือง และได้มาพำนักอยู่ที่จังหวัดหนึ่งในประเทศตุรกีกับชุมชนชาวอุยกูร์

นอกจากนี้ มีรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา ผู้ประท้วงนับสิบคนบุกเข้าไปในสถานกงสุลประจำกรุงเองการา ตุรกี เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลไทยตักสินใจส่งตัวผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ให้กับรัฐบาลจีน เหตุเริ่มเมื่อเวลาราว 5 ทุ่ม ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงที้ไม่พอใจต่อการตัดสินใจของรัฐบาลไทยได้เริ่มรวมตัวกันหน้าสถานกงกุล จากนั้นได้บุกเข้าไปและลดธงชาติไทยลง

ทั้งนี้กระแสต่อต้านจีนได้ปะทุขึ้นและดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 วัน. มีการเผาธงชาติจีน และบุกทำลายร้านค้าชาวจีน เนื่องจากชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงได้กล่าวหาต่อรัฐบาลจีนว่าขัดขวางการปฏิบัติตามวิถีทางศาสนาของชาวอุยกูร์ที่เป็นชนกลุมน้อยของจีน แต่เป็นประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของมณฑลซินเจียง

บีบีซีอธิบายว่า ชาวอุยกูร์ คือชาวมุสลิมที่มีเชื้อสายเตอร์กิช โดยส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษและมีจำนวนประชากรประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์

วิดิโอซึ่งอ้างว่า เป็นภาพเหตุการณ์การบุกสถานกงสุลไทยโดยชาวอุยกูร์ที่อิสตันบูล

ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้ไทยเคารพพันธะกรณีระหว่างประเทศและอย่าทำเช่นนี้อีก

ในวันเดียวกันนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้เผยแพร่ใบแถลงข่าว ระบุว่าได้รับการแจ้งเตือนว่ามีการเนรเทศบุคคลเชื้อสายเตอร์กิชกว่า 100 คน โดยประเทศไทย โดยเชื่อว่าพวกเขาถูกส่งกลับประเทศจีนทางสายการบินในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่มีสิ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาไม่ต้องการถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน โดยกลุ่มผู้ถูกส่งกลับดังกล่าวมีทั้งผู้หญิงและเด็ก

UNHCR รับรู้ถึงกรณีดังกล่าวมาหลายเดือนแล้ว และได้เข้าแทรกแซงต่อรัฐบาลไทยหลายครั้งในนามของพวกเขา และได้รับการแจ้งตอบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้หลักประกันว่าจะดูแลเรื่องนี้อย่างดียึดหลักตามมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ และกลุ่มที่เข้าเมืองเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครอง

ขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการระบุถึงประเทศที่สามไว้แล้ว และกลุ่มของผู้หญิงและเด็กจำนวน 172 คน จะได้รับประโยชน์จากทางออกนี้

วอลการ์ เติร์ก รองข้าหลวงใหญ่ด้านการคุ้มครองของ UNHCR กล่าวว่า "ในขณะที่พวกเรากำลังทำให้กระจ่างขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรากลับต้องตกใจกับการเนรเทศคนนับ 100 และสิ่งนี้ชัดเจนว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ"

"ผมขอเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ไทย ให้สืบสวนกรณีนี้ และเรียกร้องต่อทางการไทยให้เคารพต่อพันธะกรณีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลังการไม่ส่งกลับ (non-refoulement) และหลีกเลี่ยงการเนรเทศในลักษณะเช่นนี้อีก ในอนาคต"

UNHCR ยังเรียกร้องอย่างแข็งขันต่อรัฐบาลไทยให้อนุญาตบุคคลกลุ่มนี้เดินทางโดยสมัครใจ ไปยังประเทศที่พวกเขาเลือกและเป็นประเทศที่ตอบรับพวกเขา โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net