Skip to main content
sharethis

30 มิ.ย. 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. ประชาชน นักศึกษา อาจารย์ หลายสิบคน เข้าเยี่ยม 13 นักศึกษา-นักกิจกรรมชาย ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

กลุ่มอาจารย์ที่เข้าเยี่ยมวันนี้ ประกอบไปด้วย อนุสรณ์ อุณโณ, จันทจิรา เอี่ยมมยุรา, ชลิตา บัณฑุวงศ์, ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์, สมฤทธิ์ ลือชัย, วิโรจน์ อาลี, ประจักษ์ ก้องกีรติ และ ลลิตา หาญวงศ์ ได้แถลงข่าวแสดงจุดยืนและข้อห่วงใยในนาม “เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง” เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวทั้ง 14 คนและยุติการดำเนินคดี (อ่านข่าว)

ภายหลังการแถลงข่าวของบรรดาอาจารย์ สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้แสดงละครใบ้ ชุด “พิราบลายจุด” ด้านหน้าเรือนจำ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงนกพิราบที่ถูกคุมขัง โดยภายหลังการแสดง บก.ลายจุดไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ธีรพิมล เสรีรังสรรค์ หรือ เอ ภรรยาของ พรชัย ยวนยี หรือ แซม และ เรวดี ศุภโสภณ แม่ของ รัฐพล ศุภโสภณ หรือ บาส ได้เข้าเยี่ยมด้วย นอกจากนี้วันนี้ยังเป็นวันแรกที่ วิบูลย์ บุญภัทรรักษาและพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของจุตภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้เยี่ยมลูกชายเป็นครั้งแรก

ด้าน วิบูลย์ และ พริ้ม พ่อและแม่ของไผ่ดาวดิน ภายหลังการเข้าเยี่ยมลูกชาย ได้ร่วมร้องเพลงบทเพลงของสามัญชนกับมวลชนที่มาให้กำลังใจโดยวิบูลย์เป็นผู้เล่นกีต้าร์และกลุ่มเพื่อนร่วมอ่านบทกวี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีคำครหาที่มองว่านักศึกษามีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง วิบูรณ์กล่าวว่า ยอมรับว่าสำหรับไผ่นั้นเบื้องหลังของเขาก็คือวิธีคิดของพ่อ  จากการที่พ่อประกอบอาชีพทนายความ ตอนเด็กๆ ที่พ่อไปช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐ ไผ่ก็ตามพ่อไปด้วยจนตอนนี้ไผ่เรียนกฎหมาย ไผ่ก็มองเห็นความทุกข์ยากของชาวบ้านเหมือนกันกับพ่อจนเขาออกมาทำเช่นทุกวันนี้ พร้อมเผยว่าตนเองไม่เคยห้ามลูกที่ออกมาทำอย่างนี้ เพราะมองว่าเป็นการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

“ผมไม่ห้ามให้ลูกทำ ถ้าให้ผมเลือกกลับไปอีก ผมก็จะทำเหมือนเดิม” 

เมื่อถูกถามว่าตอนนี้ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของสมาชิกดาวดินคนอื่นบ้างหรือยัง วิบูลย์กล่าวว่า ได้คุยกับพ่อแม่คนอื่นๆ แล้วแต่ต่างกันที่พ่อแม่บางคนอาจรับราชการและถูกบีบได้ แต่โชคดีหน่อยที่ตนเองไม่ใช่ข้าราชการเลยไม่ถูกบีบเหมือนคนอื่น แต่แม้ว่าพ่อแม่บางคนจะถูกบีบแต่เด็กก็ยังคงอุดมการณ์คงเดิม

ส่วนกรณีที่ไผ่ถูกจับนั้น วิบูลย์มองว่าเป็นเรื่องตลก ตำรวจทหารหลายร้อยคนมากกว่านักศึกษาแต่มารุมจับเด็ก ทั้งๆ ที่ตอนแรกเด็กรอให้ไปจับในคดีที่โดนตั้งข้อกล่าวหาก่อนหน้า แต่ดันมาจับเด็กด้วยความผิดตามมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ตนเองเคยเข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. วิบูลย์กล่าวว่าตนเองไม่ได้ชุมนุมแค่ในช่วง กปปส. แต่ในทุกรัฐบาลที่ทำผิดหลักประชาธิปไตย ตนเองก็เข้าร่วม

ส่วนเรื่องที่คนโจมตีนั้น พ่อของไผ่มองว่า "เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเราจะเป็นนักต่อสู้อย่าไปหวั่นไหวในเรื่องการโจมตี"

วิบูลย์กล่าวต่อไปว่า ในฐานะคนเป็นพ่อตอนนี้ไม่ห่วงแล้ว  ลูกต่อสู้มาหมดแล้ว คุกก็เคยเข้าแล้ว พอเขาออกมาเขาก็จะเข้มแข็ง 

วิบูลย์ระบุด้วยว่า อยากให้ประชาชนเปิดใจกับสิ่งที่เด็กทำ เอามาวิเคราะห์ว่ากระบวนการนี้เป็นอย่างไร พร้อมตั้งคำถามว่าสังคมเราลืมอะไรไปหรือเปล่า

ด้าน ธีรพิมล ภรรยาของแซม เปิดเผยกับประชาไทว่า ทีแรกตั้งใจกันไว้ว่าจะไปเรียนต่อโทที่เมืองนอก เอกสาร VISA อะไรผ่านหมดแล้ว แต่พอแซมโดนคดีนี้เลยไม่ได้ไปกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เลื่อนไปเรียนปีอื่นได้ เพราะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องแล้ว 

นอกจากนี้ ผู้เข้าเยี่ยม ปกรณ์ อารีกุล หรือ แมน เปิดเผยหลังเยี่ยมว่า แมนเล่าว่า มีสภาพจิตใจดี กินอิ่ม นอนหลับ เพื่อนที่อยู่ข้างในทั้ง 13 คน ก็เข้มแข็งกันทุกคน เพราะมีเพื่อนมาเยี่ยมให้กำลังใจกันทุกวัน แต่จะเรียกว่าจิตใจดีมากก็ไม่ได้เพราะยังกังวลกับสถานการณ์ด้านนอกเรื่องที่รัฐบาลปราบปรามคนที่อยู่ข้างนอก และอยากฝากบอกคนข้างนอกว่า อยากให้ข้างนอกเข้มแข็งเพราะเราเองก็เข้มแข็งและร่วมสู้ไปด้วยกัน

อนึ่ง สำหรับการเยี่ยมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ (ชาย) อนุโลมให้ได้เยี่ยมพร้อมกันทุกคนทั้งผู้เยี่ยมและผู้ต้องหา จากปกติที่ผู้ต้องหาแค่ละคนจะมีโควต้าผู้เยี่ยมเพียง 10 รายชื่อและให้เข้าเยี่ยมได้เพียงวันละไม่เกิน 5 คนต่อผู้ต้องหา 1 คน

ขณะที่การเข้าเยี่ยมที่ทัณฑสถานหญิงกลางนั้น บังคับใช้ระเบียบเดียวกับเรือนจำชายและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net