27 มิ.ย. 2558 เวลา 00.20 น. ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 14 รายเป็นเวลา 12 วัน โดยทนายคัดค้านคำร้องขอฝากขังแต่ไม่เป็นผล และกำลังจะนำตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำ ผู้ชาย 13 คนไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ซึ่งเป็นนักศึกษาหญิงเพียงคนเดียวจะถูกส่งตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง

การฝากขังผลัดแรกจะครบในวันที่ 7 ก.ค.

00.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและนักศึกษาที่รออยู่ด้านหน้าศาลหลักเมือง หลังทราบข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 14 คนจะถูกส่งตัวไปเรือนจำ ก็ได้ร่วมกันจุดเทียน ร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาและบทเพลงของสามัญชน ระหว่างที่รถห้องขังกำลังจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดออกจากศาลทหารสู่เรือนจำ

จากนั้นทางกลุ่มฯ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้กล่าวขอบคุณมวลชนทุกคนที่ออกมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้ง 14 คน และประกาศยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การต้อสู้ครั้งสุด และจะไม่ยอมแพ้ให้กับระบอบเผด็จการ

"วันนี้คุณจับเพื่อนเราไป 14 คน ขบวนการประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่นั้น แต่ยังมีเพื่อนเราที่ยังอยู่ข้างนอกอีกเป็นร้อย เป็นพัน" ในหนึ่งสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กล่าว

////////////

สำหรับบรรยากาศก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 22.00 น. ประชาชนที่มาให้กำลังใจ 14 ผู้ต้องหา เดินทางมาถึงหน้าศาลหลักเมือง โดยไม่สามารถเข้าไปในซอยด้านข้างที่เป็นที่ตั้งของศาลทหารได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตั้งแผงเหล็กกั้นพร้อมกองกำลังตำรวจในเครื่องแบบราว 50 นาย สห.ประมาณ 10 คน ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำตัวเข้าไปยังศาทหารแล้ว โดยนักศึกษาสลับกันปราศรัยให้กำลังใจ และพูดเรื่องความไม่เป็นธรรมที่พลเมืองจะต้องขึ้นศาล

ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ จากกลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังหลังจากมวลชนและกองทัพนักข่าวเดินไปถึงหน้าศาลทหารว่า เขาและเพื่อนเดินทางมาดักรอยังศาลทหารก่อน และเมื่อเห็นรถตู้ที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 14 คนกำลังจะเลี้ยวเข้าถนนข้างศาลหลักเมืองเพื่อเข้าศาลทหาร เขาตัดสินใจกระโดดขวางรถตู้จนรถต้องหยุด เจ้าหน้าที่พยายามนำตัวเขาออกแต่เขาก็พยายามเข้าไปเกาะกระจกข้างรถ จนกระทั่งทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ นักศึกษาม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จาก (ศนปท.) หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดกระจกรถตู้มากล่าวกับเขาว่า
 "คนข้างในยังสู้อยู่ ขอให้คนข้างนอกสู้ด้วยเหมือนกัน" ก่อนรถจะวิ่งเข้าไปยังศาลทหาร